จีนเอาจริง ห้ามค้า-บริโภค ‘สัตว์ป่า’

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า คณะกรรมการถาวร สภาประชาชนแห่งชาติจีน เห็นชอบข้อเสนอห้ามลักลอบค้าขายสัตว์ป่า ยกเลิกการบริโภคสัตว์ป่ามากเกินไปซึ่งถือเป็นพฤติกรรมไม่ควรปฏิบัติ และคุ้มครองชีวิตและสุขภาพประชาชนทันที

ก่อนหน้านี้จีนเคยออกคำสั่งห้ามเป็นการชั่วคราว รวมทั้งตอนที่โรคทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน (ซาร์ส) ระบาดเมื่อปี 2545-2546 คร่าชีวิตประชาชนในจีนและฮ่องกงหลายร้อยคน เมื่อตรวจสอบพบว่ามาจากการบริโภคสัตว์ป่า

แต่คำสั่งห้ามดังกล่าวก็คงอยู่ไม่นาน บรรดานักอนุรักษ์กล่าวหาจีนมานานแล้วว่า ยอมทนให้เกิดการค้าสัตว์ป่าแบบหฤโหดไปทำอาหารตามตำรับยาแผนโบราณ ที่ไม่มีการรับรองผลทางวิทยาศาสตร์

ครั้งนี้สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่าเน้นย้ำถึงปัญหาการบริโภคสัตว์ป่ามากเกินไป ก่อให้เกิดอันตรายที่มองไม่เห็นด้านสาธารณสุขและความปลอดภัย หลังจากที่หน่วยงานสาธารณสุขจีนเคยกล่าวว่า เป็นไปได้ที่ไวรัสเกิดขึ้นจากตลาดแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของประเทศ ที่มีการขายสัตว์ป่าเป็นอาหาร

สำหรับตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต วานนี้ (24 ก.พ.) โควิด-19 คร่าชีวิตประชาชนในจีนไปแล้ว 2,592 คน ติดเชื้ออีกกว่า 77,000 คน เศรษฐกิจแดนมังกรกลายเป็นอัมพาต

นอกจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อใน 24 ประเทศเป็นอย่างน้อย เสียชีวิตเกือบ 30 คน ทั้งยังแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว จนกังวลกันว่าจะเกิดการระบาดเต็มที่ขนานใหญ่

ในวันเดียวกันคณะกรรมการยังตัดสินใจเลื่อนการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ ที่มีกำหนดจัดต้นเดือน มี.ค.ออกไปก่อน ซึ่งจะชะลอการทบทวนกฎหมายค้าสัตว์ป่า ส่งผลให้คณะกรรมการถาวรต้องออกคำสั่งห้ามอย่างสมบูรณ์มีผลทันที จนกว่าสภาจะผ่านกฎหมายฉบับสุดท้ายออกมา

จริงๆ แล้วตอนนี้จีนมีกฎหมายห้ามค้าสัตว์ป่าหลายฉบับ แต่นักอนุรักษ์กล่าวว่า เต็มไปด้วยช่องโหว่เกี่ยวกับสัตว์หลายสายพันธุ์ การบังคับใช้ไม่ต่อเนื่อง บ้างก็ทำไปอย่างหละหลวม

เมื่อการแพร่ระบาดพุ่งขึ้นทั่วประเทศ จีนจึงออกคำสั่งห้ามชั่วคราวเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา จนกว่าสถานการณ์การระบาดของชาติจะสิ้นสุด ซึ่งนักอนุรักษ์และนักไวรัสวิทยากล่าวว่า คำสั่งห้ามชั่วคราวไม่เพียงพอ ต้องห้ามอย่างถาวรและบังคับใช้อย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า การขนส่ง ชำแหละ และบริโภคสัตว์ป่า ล้วนเพิ่มอันตรายให้กับสังคมอย่างใหญ่หลวง ทำให้มนุษย์สัมผัสกับเชื้อโรคอันตรายจากสัตว์

นักอนุรักษ์กล่าวด้วยว่า จีนเป็นประเทศใหญ่สุดประเทศเดียวที่บริโภคสัตว์เสี่ยงสูญพันธุ์ สัตว์เหล่านั้นปกติก็ตกอยู่ภายใต้สภาพสุดโหดและได้รับการปฏิบัติอย่างเลวร้ายอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้นตอที่แท้จริงของไวรัสโคโรน่ายังไม่ทราบแน่ชัด นักวิทยาศาสตร์ให้ความเห็นแตกต่างกันไป บ้างก็ว่ามาจากค้างคาว ตัวนิ่ม หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ บางคนบอกว่าไวรัสที่คล้ายซาร์สนี้มาจากค้างคาว ต่อมาชะมดเป็นตัวนำเชื้อมาสู่คน

เมื่อตรวจสอบราคาสัตว์ป่าที่เผยแพร่กันบนอินเทอร์เน็ตจีน พบว่า พ่อค้ารายหนึ่งในตลาดอู่ฮั่นขายสัตว์ป่านานาชนิดตั้งแต่ชะมด หนู งู ตะกวดยักษ์ และลูกสุนัขป่า