พาณิชย์หวั่น 'โคโรน่า' ฉุดส่งออก ก.พ. ชี้ 'ข้าว-ยานยนต์' ทรุดต่อเนื่อง

พาณิชย์หวั่น 'โคโรน่า' ฉุดส่งออก ก.พ. ชี้ 'ข้าว-ยานยนต์' ทรุดต่อเนื่อง

สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศประจำเดือน ม.ค.2563 ซึ่งการส่งออกของไทยกลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน

การส่งออกสินค้าเดือน ม.ค.2563 มีมูลค่า 19,625 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.35% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการกลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน การส่งออกเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาเมื่อหักทองคำและน้ำมันจะทำให้การส่งออกรวมหดตัว 0.6%

ทั้งนี้ เมื่อดูรายสินค้าพบว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีมูลค่า 3,009 ล้านดอลลาร์ ลดลง 6.33% สินค้าสำคัญที่ลดลง คือ ข้าว มูลค่า 311 ล้านดอลลาร์ ลดลง 33.96% ซึ่งสถานการณ์ไม่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับการส่งออก2562 ที่ติดลบ 25.9%

ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม มีมูลค่า 15,786 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.21% สินค้าสำคัญที่ลดลง คือ ยานพาหนะ อุปกรณ์และส่วนประกอบ มูลค่า 2,796 ล้านดอลลาร์ ลดลง 1.64% ลดลงต่อเนื่องจากปีที่แล้วเช่นกัน

ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 21,181ล้านดอลลาร์ ลดลง 7.86%ทำให้ขาดดุลการค้ามูลค่า 1,555ล้านดอลลาร์

158255277757

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สนค.เปิดเผยว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคนี้ที่การส่งออกเป็นบวก แม้แต่เวียดนามยังติดลบถึง 2 หลัก โดยการส่งออกดีขึ้นสะท้อนความเข้มแข็งของการส่งออกของไทยที่กระจายตัวได้ดีทั้งในด้านสินค้าและตลาดทำให้ประคองส่งออกไปได้ แม้จะมีปัจจัยความท้าทายเกิดขึ้นในเศรษฐกิจโลก 

การส่งออกเดือน ม.ค.2563 ที่เพิ่มขึ้น มาจากการส่งออกทองคำ เพราะความต้องการทองคำสูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลกระทบจากสงครามการค้าลดลง ทำให้สินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับสงครามการค้าส่งออกได้ดีขึ้น 

“การส่งออกไทยกลับมาอยู่ช่วงฟื้นตัว อีกทั้งไทยยังมีสินค้ากลุ่มใหม่ที่ขยายตัวได้ดีเป็นสินค้าดาวรุ่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรและอาหาร เช่น ผลไม้ ไก่ เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมที่กลับมาฟื้นตัว เช่น เครื่องปรับอากาศ โดยน่าจะเป็นตัวที่ช่วยผลักดันส่งออกได้เพิ่มขึ้น” 

ขณะที่ตลาดสำคัญมีสัญญาณฟื้น โดยเฉพาะการส่งออกไป 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดของโลก คือ สหรัฐ ขยายตัว 9.9 % ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และจีนขยายตัว 5.2 % ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3

การส่งออกเดือน ม.ค.2563 ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากโรคโควิด-19 ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนในเดือน ก.พ.2563 ที่การส่งออกน่าจะลดลง เพราะได้รับผลกระทบด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ โดยมีการเข้มงวดเรื่องตู้คอนเทนเนอร์มากขึ้น มีการปิดด่านบางด่วน แม้จะเริ่มเปิดให้บริการ ก็ทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งออก 

สนค.เห็นว่าในวิกฤตมีโอกาส โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ที่จะส่งออกได้ดีขึ้นอย่างมาก หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เพราะจะต้องการเข้ามาอย่างมาก ซึ่งไทยต้องรักษาคุณภาพ มาตรฐาน เพื่อสร้างโอกาสในการส่งออก ซึ่งกำลังเตรียมมาตรการเสนอรัฐบาลพิจารณา

 นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณดีจากการนำเข้าเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้น 18.7% แสดงให้เห็นความต้องการขยายการผลิต และมีสัญญาณการเคลื่อนย้ายซัพพลายเชนในภูมิภาคบางส่วนมาไทย เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าและโรคโควิด-19 ซึ่งไทยควรใช้โอกาสนี้ปรับโครงสร้างการผลิตให้ตอบสนองตลาดที่เปลี่ยนไป เช่น รถยนต์ไฟฟ้า

“ส่งออกปีนี้น่าจะขยายตัว 0-2% หากได้เฉลี่ยเดือนละ 21,049 ล้านดอลลาร์ จะขยายตัว 2% อยู่ในวิสัยที่ทำได้ แต่ความชัดเจนต้องรอประชุมทูตพาณิชย์วันที่ 28 ก.พ.นี้”

 สนค.มั่นใจว่าการส่งออกปี 2563 จะเป็นบวกเพราะสงครามการค้าคลี่คลายลง และแม้มีความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 แต่ถ้าควบคุมสถานการณ์ได้จะส่งผลดีต่อการส่งออก ส่วนค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีแผนนำคณะผู้แทนการค้าเปิดตลาด 18 ประเทศ เช่น อัฟริกาใต้ รัสเซีย ตะวันออกกลาง