GULF - ซื้อ

Event

กำไรสุทธิของ GULF ใน 4Q62 อยู่ที่ 905 ล้านบาท (+63.5% YoY, -16.7% QoQ) ซึ่งเป็นไปตามประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่า Bloomberg consensus 6.4% โดยบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ 234 ล้านบาท ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักอยู่ที่ 671 ล้านบาท (+27.2% YoY, -32.7% QoQ) ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักในปี 2562 อยู่ที่ 3.5 พันล้านาท (+24.2% YoY) ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดปี 2562 ที่ 1.3 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.7% (กำหนดขึ้น XD วันที่ 5 มีนาคม 2563) คณะกรรมการบริการได้พิจารณาเปลี่ยนมูลค่าพาร์จาก 5บาท/หุ้น ไปเป็น 1 บาท/หุ้น

lmpact

รายได้เร่งตัวขึ้น YoY จากกำลังการผลิตใหม่ แต่ลดลง QoQ จากการปิดซ่อมบำรุงตามแผน

รายได้ใน 4Q62 อยู่ที่ 8.0 พันล้านบาท (+51.9% YoY, -4.0% QoQ) เพิ่มขึ้น YoY จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า SPP 12 โรง และ TTCIZ-01,02 (โครงการ Solar ในเวียดนาม) ส่วนรายได้ที่ลดลง QoQ เป็นเพราะ i) มีการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้า SPP สามแห่งตามแผน (ตรวจสอบประจำปี ) และ ii)ปริมาณยอดขายไฟฟ้าและไอน้ำลดลง

อัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว QoQ ในขณะที่สัดส่วน SG&A/ยอดขาย เพิ่มขึ้น QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 24.1% (จาก 27.3% ใน 4Q61 และ 24.3% ใน 3Q61) เนื่องจากต้นทุนค่าก๊าซที่ลดลง (-0.9% QoQ) แทบจะหักล้างกันไปพอดีกับต้นทุนค่าซ่อมบำรุงที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่า Ft ยังทรงตัวอยู่ในระดับเดิม ในขณะที่สัดส่วน SG&A/ยอดขายเพิ่มขึ้น QoQ เป็น 6.9% จาก 4.9% ใน 2Q62

รายได้ Equity income เพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากโรงไฟฟ้า IPP ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

รายได้ Equity income อยู่ที่ 467 ล้านบาท (+5.1% YoY, -19.0% QoQ) เราเชื่อว่ารายได้ส่วนนี้ที่เพิ่มขึ้น YoY เป็นเพราะโรงไฟฟ้า IPP (GNS, GUT) ผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการปิดโรงไฟฟ้าหงสานอกแผน

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี 2563 ที่ 198.50 บาท ถึงแม้ว่าจะยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกพอสมควร แต่เรายังไม่ได้รวม upside จากโครงการแหลมฉบังเฟสที่ 3 (4-5 บาท/หุ้น) และ Burapa power (189MWe อีก4-4.5 บาท/หุ้น) โดยราคาเป้าหมายใหม่หลังจากที่แตกพาร์แล้วเป็น 39.75บาท

Risks

ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่ การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่