'ธนาธร-ปิยบุตร' มาสภา ติวเข้ม ส.ส.อนาคตใหม่เปิดซักฟอก

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 63 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ได้เดินทางมายังอาคารรัฐสภา เพื่อมาร่วมเตรียมความพร้อมให้กับ ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายปิยบุตร แถลงว่า สำหรับกรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะเข้ามาร่วมทำงานกับส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ได้หรือไม่อย่างไรนั้นตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่ากรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งห้ามข้องเกี่ยวกับพรรคการเมืองภายใน 10 ปี ปัญหา คือ ในตอนนี้ยังไม่มีพรรคสังกัดใหม่เลย

"นี่เป็นช่วงรอยต่อ พูดกันง่ายๆ คือ ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และวันจันทร์เริ่มเปิดอภิปราย พวกผมไม่ได้คาดคิดว่าจะถูกยุบ พวกผมเตรียมงานอภิปรายมาอย่างดี แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็ต้องเดินหน้าต่อ ท้ายที่สุดเรายืนยันมาตลอดว่าคุณธนาธรเป็นหัวหน้าทีมทั้งหมดในการอภิปราย เตรียมและติวข้อมูลต่างๆ เต็มไปหมด ปฏิเสธความจริงไม่ได้ เราก็ให้สัมภาษณ์แบบนี้มาตลอด จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมายุบพรรคแล้วหมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องเลิกทำเหรอครับ มันเป็นไปไม่ได้ ส.ส.ของเราก็ยังเดินหน้าทำหน้าที่" นายปิยบุตร กล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า ขอย้ำว่าส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ประชาชนเลือกมา 6 ล้านเสียง แต่บังเอิญที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 คนไปยุบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยืนยันว่าทุกคนจะเดินหน้าอภิปรายทั้ง 15 คนตามที่เตรียมมา และแต่ละท่ายังไม่ได้ไปสังกัดพรรค ดังนั้น บทบาทของตนและนายธนาธร ไม่ได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ เพราะส.ส.ยังไม่ได้สังกัด

นายธนาธร กล่าวว่า พวกเรามั่นใจว่าข้อมูลที่เตรียมมาจะเป็นประโยชน์กับประชาชนว่าเราไม่สามารถไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งได้อีก โดยคนแรกของพรรคที่จะอภิปราย คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยจะเน้นภาพรวมแห่งความล้มเหลวของรัฐบาลในเรื่องเศรษฐกิจ

"หลังจากอภิปรายจะมีข้อมูลหลายส่วนที่จะถูกนำไปดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไปแต่ที่เรามั่นใจว่ามากกว่านั้น คือ จะเห็นรัฐมนตรีร่วงกลางสภา เราเชื่อว่ามีหลักฐานหลายเรื่องที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน และจะเปิดครั้งแรกในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้" นายธนาธร กล่าว

ด้าน นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวตั้งใจว่าจะอภิปรายเหมือนกับเป็นผู้แทนของราษฎร โดยราษฎรเพื่อราษฎร ไม่ได้คิดที่จะอภิปรายเหมือนกับนักเศรษฐศาสตร์ แต่จะอธิบายจากมุมมองของความเดือดร้อนของประชาชนจากชาวบ้านจริงๆ