EA ปี 62 กำไร 6.08 พันล้านโต 18% เหตุรายได้รวมเพิ่มขึ้น

EA ปี 62 กำไร 6.08 พันล้านโต 18% เหตุรายได้รวมเพิ่มขึ้น

EA ปี 62 กำไรสุทธิ 6.08 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุรายได้รวมเติบโต19.73% อยู่ที่ 1.49 หมื่นล้านบาท

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 6,081.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.15% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5,147.54 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 19.73% อยู่ที่ 14,954.54 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 12,490.22 ล้านบาท

สำหรับความคืบหน้าโครงการลงทุนสำคัญของบริษัท 1. โครงการแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนกำลังการผลิต 50 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง โดยการลงทุนระยะ(เฟส)ที่ 1 มีขนาดกำลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง ใช้งบลงทุนเฟสแรก ประมาณ 5,000 ล้านบาทปัจจุบันได้เริ่มงานฐานรากและเตรียมที่จะสร้างอาคารโรงงานแล้ว เมื่อการก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จจะเริ่มติดตั้งเครื่องจักรใหญ่สำหรับการผลิตแบตเตอรี่ฯ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการติดตั้งประมาณ 2 เดือน และทดสอบระบบก่อนเริ่มการผลิตจริง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตส าหรับระยะแรกนี้ได้ภายในปี 2563 หลังจากนั้นจึงจะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 49 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมงจนครบถ้วนตามแผนการที่วางไว้โดยระหว่างนี้บริษัทฯ จะใช้กำลังการผลิตของ Amita เพื่อผลิตและนำแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน มาใช้ในการประกอบกับรถยนต์ไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า ตามแผนงานของบริษัทฯ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจของรถยนต์ไฟฟ้า และเรือไฟฟ้าแต่อย่างใด

2. โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า สินปี2562 บริษัทได้เปิดให้บริการแล้วจำนวน 988 หัวจ่าย อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 285 สถานี รวมถึงการเตรียมการก่อสร้างสถานีชาร์จสำหรับเรือไฟฟ้าที่จะเริ่มให้บริการในไตรมาสที่ 2 ปี 2563 นี้อีกด้วย โดยบริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าในรูปแบบการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ซึ่งจะได้รายงานความคืบหน้าต่อไป

3. โครงการรถยนต์ไฟฟ้า MINE Mobilityบริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จ ากัด ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) ในการตกลงจองสิทธิซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MINE SPA1 ขนาดกลาง หรือรถขนาดครอบครัว (MPV) จ านวนรวม 3,500 คัน และผู้สนใจทั่วไปลงทะเบียนไว้อีก 1,058 ราย ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ไฟฟ้าด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท รองรับกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารวม 10,000 คัน ต่อปี โดยมีกำหนดแล้วเสร็จและเริ่มทยอยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น MINE SPA 1 ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เป็นต้นไป นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งบริษัทย่อย ชื่อบริษัทอีวีนาว จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายรถบัสไฟฟ้า รถบรรทุกไฟฟ้า และยานพาหนะอื่นทุกประเภท รวมถึงธุรกิจบริการขนส่งสาธารณะ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจด้านรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป


4. โครงการกรีนดีเซล และ PCM บริษัทฯ จึงได้ลงทุนสร้างโรงงานแห่งใหม่ขึ้นที่จังหวัดระยอง ด้วยมูลค่าการลงทุน 1,100 ล้านบาท ซึ่งโรงงานขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน และการติดตั้ง พร้อมทดสอบเครื่องจักร คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเริ่มการผลิตระยะที่ 1 ซึ่งจะผลิตเป็นสาร Bio-PCM 65 ตันต่อวัน ได้ภายในช่วงกลางปี 2563 นี้ และจะเริ่มการผลิตระยะที่ 2ซึ่งจะมีการผลิตเป็นสาร Normal Paraffin (หรือ Green Diesel)และ Bio-PCM อีก 65 ตันต่อวัน พร้อมนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวแอปพลิเคชัน “ปาล์มยั่งยืน” ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี Block chain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมซื้อขายปาล์ม โดยการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการซื้อขาย และคุณภาพของวัตถุดิบ เพื่อใช้ตรวจสอบที่มาและบันทึกการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างถูกต้อง
5. โครงการเรือโดยสารไฟฟ้าบริษัทฯ วางแผนที่จะลงทุนประกอบเรือไฟฟ้าโดยสารทั้งสิ้น 42 ลำ ด้วยงบประมาณ1,000 ล้านบาท ปัจจุบันการประกอบโครงเรือไฟฟ้าโดยสารต้นแบบ 2 ลำแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว อยู่ระหว่างการทดสอบระบบไฟฟ้าและการขับเคลื่อน รวมทั้งการตกแต่งรายละเอียด คาดว่าจะปล่อยเรือไฟฟ้าลงน้ำเพื่อทดสอบการเดินเรือได้ในช่วงไตรมาสที่ 1-2 และเริ่มให้บริการในกลางปี 2563 เป็นต้นไป และเพิ่มเป็น40 ลำภายในสิ้นปีนี้


6. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ า (Floating Solar) บริษัทฯ ได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป(TFG) ในการเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทีเอฟ เทค จำกัด หรือ TFT เพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท โดยวางแผนที่จะลงทุนร่วมกัน 2 โครงการคือ โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ (Floating Solar) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop)ปัจจุบัน อยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการแรก โดยการติดตั้งแผงโซลาร์ลอยน้ำในโรงงาน 4 แห่ง ได้แก่ โรงชำแหละไก่กาญจนบุรี, โรงชำแหละไก่กบินทร์บุรี, โรงอาหารสัตว์สุพรรณบุรี และโรงอาหารสัตว์กบินทร์บุรี กำลังการผลิตรวม 13.78 MW มูลค่าลงทุนประมาณ 360 ล้านบาท คาดก่อสร้างและติดตั้งแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2563 และจะทยอยเริ่มก่อสร้างในโครงการที่เหลือต่อไปให้แล้วเสร็จภายในปี 2565