ด่วน! กองปราบบุกรวบอีก 3 แก๊งอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

ด่วน! กองปราบบุกรวบอีก 3 แก๊งอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา

อัพเดท ตำรวจกองปราบ บุกรวบอีก 3 แก็งอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ขณะหลบหนีไปกบดานใน จ.นครสวรรค์ พร้อมควบคุมตัวแยกสอบปากคำในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 6

มีรายงานแจ้งว่า ช่วงเย็นที่ผ่านมา 23 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองบังคับการปราบปราม ได้ทำการสอบปากคำนายมานัส ป้อมจันทร์ และนายณรงค์ศักดิ์ ทับนิล ซึ่งเป็นสองในสามผู้ต้องหาในคดีอุ้มฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ทั้งนี้ จากการสอบปากคำทั้งสองมีอาการเคร่งเครียด ก่อนที่หนึ่งให้สองผู้ต้องหา จะให้การซักทอดว่า ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกสามรายที่ยังไม่ถูกจับกุม กระทั่งช่วงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการขยายผลจากคำให้การของหนึ่งในสองผู้ต้องหา จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาอีกสามราย ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ต่อจิ๊กซอว์ จนพบว่า ขบวนการนี้มีด้วยกัน 6 ราย โดยมีพ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นายมานัส ป้อมจันทร์ และนายณรงค์ศักดิ์ ทับนิล ซึ่งถูกนำตัวมาคุมขังไว้ที่กองบังคับการปราบปราม โดยทำการแยกสอบปากคำ และแยกอยู่คนละห้อง ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าที่ตำรวจอย่างแน่นหนา ขณะที่ผู้ต้องหาอีกสามรายถูกคุมตัวไว้ที่ห้องขัง โดยแยกสอบปากคำในแต่ละ สภ. ในท้องที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค6

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานว่าชุดสืบสวนสอบสวนได้ทำการแยกห้องสอบปากคำผู้ต้องหา ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าที่ตำรวจอย่างเข้มงวด จากการสอบปากคำนายมานัส ทับนิล และนายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ ทั้งสองมีอาการเครียด ก่อนที่หนึ่งในสองผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 3 ราย กระทั่งช่วงเย็นวันนี้ทางชุดสืบสวนได้จับกุมผู้ต้องหาอีกสามราย คือ นายประชาวิทย์ ,นายชาติชาย และนายธงชัย หรือสจ.อ๊อด ได้ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ โดยวันนี้ได้แยกสอบปากคำแต่ละคน ไว้ที่สภ.ในท้องที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามราย มาคุมขังที่กองปราบปรามในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

สำหรับพฤติการณ์ภายหลังกลุ่มผู้ต้องหาลักพาตัว นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ไปเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ระหว่างทางได้โทรศัพท์มาข่มขู่ให้ผู้พิพากษายกฟ้องในคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ร่วม 300 ล้านบาท และระหว่างทางได้ลงมือทำร้ายวีรชัย ด้วยการต่อยที่ท้อง และทำร้ายร่างกาย แต่เนื่องจากนายวีรชัยที่อายุมาก ได้สิ้นใจบนรถ ขณะขับผ่านถนนย่านบางบัวทอง จึงได้นำศพไปเผาอำพรางที่บริเวณป่ารกร้างบ้านกระดี่ ต.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ช่วงเวลากลางคืนวันที่4 ต่อเช้ามืดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยใช้สังกะสีรองก่อนเผา ก่อนจะนำชิ้นส่วนร่างกายที่มีขนาดใหญ่ไปทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณ ต.บ้านกลางแดด จ.นครสวรรค์