จับตา ส่งออกม.ค. แถลงวันนี้ ขณะสศช.แนะ 5 วิธี ดันส่งออกปีนี้โต 2%

จับตา ส่งออกม.ค. แถลงวันนี้ ขณะสศช.แนะ 5 วิธี  ดันส่งออกปีนี้โต 2%

“การส่งออก”หนึ่งในเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศไทยมีการพึ่งพาเครื่องยนต์นี้มากถึง 60% หากการขับเคลื่อนส่วนนี้ทำได้ไม่เต็มกำลัง เศรษฐกิจประเทศไทยปี 2563 มีโอกาสไปไม่ถึงฝั่ง

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ว่า จีดีพีปีนี้ อาจขยายตัว1.5-2.5% ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ โดยเฉพาะการการส่งออกที่ต้องขยายตัว2.0% (ไม่รวมทองคำ)

ทั้งนี้ สศช. ได้นำเสนอการขับเคลื่อนการส่งออกให้สามารถกลับมาขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2.0% (ไม่รวมทองคำ) ผ่าน 5 วิธีการ ดังนี้  1.การเร่งรัดกำหนดเป้าหมายการส่งออก การจัดทำแผนขับเคลื่อนการส่งออก และการขับเคลื่อนตามแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 

2.การให้ความสำคัญกับ 158234406916 การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าที่มีโอกาสจากการเบี่ยงเบนทิศทางทางการค้าซึ่งเริ่มมีบทบาทต่อ การขับเคลื่อนการส่งออกในครึ่งหลังของปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจนมากขึ้น 3.การให้ความสาคัญกับสินค้าส่งออกที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศจีน โดยเฉพาะ ในกลุ่มวัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ อาหารและผลิตภัณฑ์อาหาร  

4.การให้ความช่วยเหลือผู้ผลิตที่อยู่ในห่วงโซ่การผลิตและการค้าไทย-จีน การเร่งรัดดำเนินการหาข้อสรุปของการเจรจาภายใต้กรอบความร่วมมือทางการค้าที่สำคัญ ๆ อาทิ กรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และ Thai – EU รวมทั้งให้ความสาคัญกับความร่วมมือ Thai - UK

ทั้ง 5 ข้อเสนอของสศช. ถือเป็นแผนการส่งออกที่น่าสนใจในปีแห่งความยากลำบากนี้ เนื่องจาก มีการประเมินว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2% ลดลงจากสมมติฐานเดิมที่ 3.3% และปริมาณการค้าโลก จะขยายตัว 2.4% ลดลงจาก 2.8%

 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจจีนและเศรษฐกิจหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะประเทศที่มีความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยวกับจีนในระดับสูง  อย่างไรก็ตาม ภายใต้สมมติฐานการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังอยู่ในขอบเขตจากัดและสิ้นสุดลงในพ.ค.นี้ 

ด้านค่าเงินบาทคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 31.2 ต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากเฉลี่ย 31.0 ต่อดอลลาร์ ในปี 2562 สอดคล้องกับทิศทางนโยบายการเงินของสหรัฐและประเทศสำคัญ ๆ ที่คาดว่ามีแนวโน้มที่จะคงนโยบายการเงินไว้ในระดับเดิมมากขึ้น หลังจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา รวมทั้งแนวโน้มการลดลงของการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกิดจากการลดลงของรายได้จากการส่งออก บริการท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ส่วนราคาส่งออกและราคานำเข้าสินค้า ในปี 2563 คาดว่าราคาส่งออกจะลดลงเล็กน้อยเท่ากันที่-0.1% สอดคล้องกับสมมติฐานราคานำ้มั 158234449386 นดิบดูไบและการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าวัตถุดิบและราคาสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุน จากTrade war ที่ลดความรุนแรง ,ความเสี่ยง No-deal BREXIT ลดลง,นโยบายการเงินผ่อนคลาย,การปรับตัวของห่วงโซ่การผลิตและการค้าโลกต่อ Trade war

สมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 ก.พ.นี้จะมีการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์)เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของไทยในปี 2563

โดยทูตพาณิชย์จากทั่วโลกจะมีการนำเสนอแผนงานการส่งออกในตลาดที่ตนเองดูแล โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันสูง ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สงครามการค้า รวมถึงประเมินคาดการณ์การส่งออกในตลาดที่ดูแลอยู่ด้วย

ส่วนเป้าหมายการส่งออกในปี 2563 ต้องมาพูดคุยกันก่อนที่สรุป เพราะต้องได้รับข้อมูลจากหลายฝ่ายทั้งภาคเอกชน สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เพื่อนำมาประเมินก่อน ซึ่งวันที่ 28 ก.พ.คาดว่าจะสามารถกำหนดเป้าหมายส่งออกปี2563อย่างเป็นทางการได้ในระดับหนึ่ง

สำหรับแผนการการเจาะตลาด 18 ประเทศที่วางไว้ ก่อนหน้านี้ แต่หลังเกิดการระบาดของโรคโควิค-19 จำเป็นต้องปรับใหม่เพื่อให้เหมาะสม เช่น แผนการโปรโมทสินค้า การปรับแผนให้เน้นในเรื่องของการขายออนไลน์ให้มากขึ้น แต่หากว่าจีนคุมสถานการณ์ไว้ได้

สนั่น อังอุบลกุล รองประธานหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนเตรียมเสนอมาตรการผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก 3 มาตรการคือ 1.มาตรการด้านการเงิน เพิ่มรายได้ และลดรายจ่าย ปล่อยสินเชื่อให้กับเอสเอ็มอี และผ่อนปรนการชำระหนี้ 

2.มาตรการเพิ่มรายได้ ขอให้มีการส่งเสริมกิจกรรมงานแสดงสินค้าในกลุ่มประเทศเป้าหมาย เจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อผ่อนปรนการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ประเทศจีนสำหรับสินค้าทางชายแดน และ3.มาตรการลดรายจ่าย เสนอให้ควบคุมการปรับอัตราค่าระวางเรือที่ไม่เหมาะสม

กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดแถลงสถานการณ์ส่งออก ม.ค. 2563 วันนี้ (24 ก.พ.) หากตัวเลขออกมาดี ก็พอจะคาดการณ์ได้ว่า  ส่งออกทั้งปี 2563 น่าจะทำหน้าที่พยุงเศรษฐกิจประเทศได้ แต่หากตัวเลขที่ออกมาไม่เป็นไปอย่างที่คาด วิธีการผลักดันการส่งออกให้โต 2% ของสศช.ก็เป็นแนวทางที่ควรรับไว้พิจารณาและดำเนินการ