หวั่น ‘โควิด-19’ ทุบเศรษฐกิจโลก ดันราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง1.5%
ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง1.5% เหตุนักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดตลาดวันศุกร์(21ก.พ.)ยังคงดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 7 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี(20ก.พ.)ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจโลก
สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนเม.ย. ดีดตัวขึ้น 1.4% ปิดที่ราคา 1,643.2 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 7 และปรับตัวขึ้น 8 ใน 9 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์นี้ในรอบ 1 เดือนครึ่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มการถือครองทอง 0.25% สู่ระดับ 933.94 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2559
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่โรคโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักทั้งในจีนและประเทศอื่นๆ
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าชั้นดี (LPR) ระยะเวลา 1 ปี โดยปรับลดลง 0.10% สู่ระดับ 4.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 5 ปี ลง 0.05% สู่ระดับ 4.75% โดยมีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่จีนกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขณะเดียวกัน ซิตี้กรุ๊ป ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาทองในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า สู่ระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ ทั้งยังคาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งสูงกว่าระดับ 2,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า
ซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า ปัจจัยหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.
ส่วนยูบีเอส ระบุว่า ในระยะสั้น ราคาทองจะพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ บ่งชี้ว่าราคาทองจะดีดตัวทะลุแนว 1,650 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“ขณะนี้ทองกำลังแสดงคุณภาพในการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และเราขอแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อทอง” ยูบีเอส ระบุ
อย่างไรก็ดี ยูบีเอส เตือนว่าช่วงขาขึ้นของราคาทองอาจถูกจำกัด หากประเทศต่างๆสามารถสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในไตรมาสแรก
ด้านบีสโปค อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ระบุว่า การที่ราคาทองสามารถทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์ถือเป็นการพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ทองดีดตัวขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ บีสโปค ยังระบุว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองในรอบนี้มาพร้อมกับการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ไม่ใช่สาเหตุผลักดันราคาทองในครั้งนี้