หุ้นสายการบินอ่วม ! เซ่นพิษ 'ไวรัส' ยกเลิกเส้นทาง-ผู้โดยสารลดฮวบ

หุ้นสายการบินอ่วม ! เซ่นพิษ 'ไวรัส' ยกเลิกเส้นทาง-ผู้โดยสารลดฮวบ

การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “โควิด-19” ลากยาวเข้าสู่เดือนที่ 2 หลังพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

และแน่นอนว่ายิ่งนานวันขึ้น ผล กระทบยิ่งมากขึ้น ซึ่งสำหรับประเทศไทยภาคธุรกิจแรกที่โดนผลกระทบไปเต็มๆ คือ “ภาคการท่องเที่ยว” เพราะเราพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนเยอะ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนราวๆ 11 ล้านคน หรือ เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านคน ที่สำคัญคนจีนกระเป๋าหนักไม่น้อยใช้จ่ายเฉลี่ยถึงคนละ 5 หมื่นบาทต่อทริปเลยทีเดียว

แต่หลังรัฐบาลจีนสั่งห้ามบริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 63 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ทำให้กรุ๊ปทัวร์จีนหายไปแทบจะทันที กระทบผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยชนิดที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

ไล่มาตั้งแต่สายการบิน โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เงียบเหงาไปถนัดตา โดยสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. พบว่า ระหว่างวันที่ 1-18 ก.พ. 63 ตัวเลขนักท่องเที่ยวทั้งหมดอยู่ที่ 1,352,511 คน หายไป 45.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และหากนับตั้งแต่ต้นปีมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้ว 5,074,120 คน ลดลง 18.78% โดยนักท่องเที่ยวจีนลดลงมากที่สุด 40.91% อยู่ที่ 1,068,448 คน

ตัวเลขนักท่องเที่ยวของ ททท. สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบินทั้ง 6 แห่ง ของ ทอท. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOT ปรับตัวลงเช่นกัน โดยในเดือน ก.พ. นี้ มีผู้โดยสารเฉลี่ย 3 แสนคนต่อวัน ลดลง 1.5 แสนคนต่อวัน เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ก.พ. 62 ที่มีผู้โดยสารเฉลี่ย 4.5 แสนคนต่อวัน จนเป็นที่มาให้ ทอท. ยอมเฉือนเนื้อตัวเอง ด้วยการลดหรือยกเว้นค่าเช่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าพาณิชย์ ดิวตี้ฟรี ที่เช่าพื้นที่ในสนามบิน

แต่อีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักไม่แพ้กัน คือ “สายการบิน” เพราะหลายเมืองในจีนยังถูกปิดตาย ขณะที่หลายประเทศเพิ่มความเข้มงวดในการเดินทางมากขึ้น โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารสายการบินทั่วโลกหดตัวลง 0.6% เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551

หันกลับมาดูผู้ประกอบการสายการบินของไทย แต่ละรายต้องปรับแผนธุรกิจกันด่วน ยกเลิกเที่ยวบินในพื้นที่จุดเสี่ยง รวมทั้งออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ เช่น เปิดให้คืนตั๋วโดยสาร, ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน ฯลฯ

อย่างล่าสุด ริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ประกาศยกเลิก 30 เที่ยวบิน ในหลายประเทศเอเชีย ทั้งจีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, บังกลาเทศ และดูไบ โดยเฉพาะไฟลท์บินไป-กลับจีน ที่ถูกยกเลิกหลายเส้นทางตลอดเดือน มี.ค. ทั้ง ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เซี่ยเหมิน, คุนหมิง และ เฉิงตู ดังนั้น ใครที่จะเดินทางช่วงนี้ต้องตรวจเช็คข้อมูลกันให้ดี

ดูจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังเป็นปีที่หนักมากสำหรับสายการบินประจำชาติ ป้าหมายที่ “ดีดี” การบินไทย หวังว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรคงไม่ใช่งานง่ายแน่นอน มีโอกาสขาดทุน 4 ปี ติดต่อกัน จากงบฯ ล่าสุดงวด 9 เดือน ปี 62 ยังขาดทุนอยู่กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท

ส่วนที่ประเมินกันว่าน่าจะเจ็บหนักที่สุด คือ สายการบินต้นทุนต่ำ “ไทยแอร์เอเชีย” ของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV เพราะให้บริการเส้นทางบินไป-กลับจีนมากที่สุด รวม 14 เมือง 20 เส้นทาง กว่า 164 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เช่น กวางโจว, เซินเจิน, ซัวเถา, ฉางชา, คุนหมิง, ซีอาน, เฉิงตู, เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง, เซินเจิน เป็นต้น

โดยเส้นทางบินสู่ประเทศจีนของไทยแอร์เอเชียคิดเป็นสัดส่วนราวๆ 12% จากเส้นทางบินทั้งหมด ยังไม่นับรวมเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่ทัวร์จีนนิยมเช่ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยผู้โดยสารชาวจีนมีสัดส่วนมากถึง 30% ทั้งนี้ ผู้บริหารประเมินว่าผู้โดยสารจีนจะหายไปกว่า 3 แสนคน ในไตรมาส 1 นี้ แบ่งเป็นผู้โดยสารที่เป็นกรุ๊ปทัวร์หายไป 2.4-2.5 แสนคน และผู้โดยสารเที่ยวบินเช่าเหมาลำอีกราว 8 หมื่นคน

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะสะท้อนมาที่งบการเงินของกลุ่มสายการบินตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 เป็นต้นไป ซึ่งแนวโน้มไม่สดใสเอาเสียเลยจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง ต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ส่วนมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐที่จะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินเส้นทางบินในประเทศ อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้นักวิเคราะห์หลายๆ สำนักจึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นสายการบินออกไปก่อน และหลายค่ายยังปรับลดน้ำหนักการลงทุนลงด้วย