พปชร. เปิดศึกนอกสภา เตรียมแฉ 'เจ๊ ด.' สวนฝ่ายค้าน

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 63 ที่พรรคพลังประชารัฐ คณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้ง 6 ทีม ประชุมเพื่อเริ่มซักซ้อมและรวบรวมข้อมูลเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงาน ระบุว่า การทำงานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้เนื้อหาที่เหมาะสม ลึก และแน่น โดยคาดหวังผลสำเร็จตามเป้าหมาย 2 ประการคือ 1.ประชาชนอยากเห็นเนื้อหาที่มีสาระ 2.สงบเรียบร้อย เป็นไปตามกติกา ซึ่งหากมีการอภิปรายซ้ำซากวนเวียนแผ่นเสียงตกร่อง พูดย้อนไปถึงการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ก็จะมีการสวนกลับด้วยข้อมูล ย้อนไปถึงสาเหตุการทำรัฐประหารเช่นเดียวกัน

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะทำงานจะประชุมและแถลงเปิด ประเด็นไฮไลท์ทุกวัน ไปจนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ รวมถึงประชาชนและนักการเมืองหลายๆ คน โดยได้สรุปเนื้อหาสาระให้กับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดตัวยุทธการดับสุริยา เพื่อตอบโต้ยุทธการอรุณรุ่งของฝ่ายค้าน โดยประเมินว่าการอภิปรายของฝ่ายค้าน คงไม่มีอะไรมากนอกจากการอภิปรายแผ่นเสียงตกร่อง ย้อนไปถึงการรัฐประหาร สืบทอดอำนาจเผด็จการ กับประเด็นหากินตบทรัพย์ทางการเมือง อย่างกรณีที่มีข่าวว่านายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดประเด็นเจ้าสัว หรือการอภิปรายน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงเรื่องเศรษฐกิจ ฝนแล้ง น้ำท่วม ซึ่งทีมงานสามารถจับประเด็นหัวข้อรายละเอียด และเตรียมข้อมูลให้กับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเรียบร้อยแล้ว

นายสุภรณ์ กล่าวอีกว่า ฝ่ายรัฐบาลก็เตรียมสวนกลับด้วยประเด็นที่เป็นไฮไลท์ ว่าก่อนเกิดการรัฐประหาร มีใครทำอะไรไว้อย่างไร เพราะอะไรจึงมีการรัฐประหาร โดยเฉพาะความพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย เอื้อประโยชน์ให้กับคนบางคน โดยการกำกับของเจ๊ ด. ดังนั้นหากฝ่ายค้านอภิปรายย้อนถึงอดีต ก็จะสวนกลับย้อนถึงอดีตด้วยเช่นกัน

ด้าน นายฉลอง เรี่ยวแรง กล่าวว่า เราไม่ได้เป็นองครักษ์พิทักษ์ใคร ตนเองมาทำหน้าที่ตนเอง ยืนยันว่าอายุรัฐบาลตลอด 7 เดือนหากมีใบเสร็จว่าใครโกงบ้านโกงเมืองยินดีให้ดำเนินการและสนับสนุน แต่ระวังอย่ายื่นมีดให้รัฐบาลรัฐบาลจะสวนกลับ ส่วนกรณีเอื้อนายทุนเจ้าสัว ยืนยันว่าคนกลุ่มนี้ก็หาเจ้าสัวร้อยตำรวจเอกเฉลิม ก็นับถือกันแต่ก็ไม่อยากให้ร้อยตำรวจเอกเฉลิมเดินหลงทาง และก็เห็นอยู่ว่าแต่ละคนที่รับใช้มาสุดท้ายก็เดินเข้าคุกหมด หากฝ่ายค้านจึงเริ่มถอยหลังเราก็จะถอยหลังไปด้วย

"อย่างที่พูดว่าไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะทำการรัฐประหารรู้จริงหรือเปล่า เพราะ พลเอกประยุทธ์ให้โอกาสทั้งสองฝ่ายได้เจรจากันแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้ จึงทำการรัฐประหาร เพราะไม่อยากให้ประชาชน 2 ฝ่ายขัดแย้งฆ่ากัน ไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย และสาเหตุที่มีกลุ่ม กปปส. ขึ้นมาเพราะฝ่ายรัฐบาลพยายามออกกฎหมายล้างผิดนิรโทษกรรม ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์หลายๆคนรู้ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งพลเอกประยุทธ์เป็นคนที่แฟร์มาก เพราะได้ให้ตกลงกันก่อนให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีทุกคนสามารถตอบได้ทุกคนตามพื้นฐานความเป็นจริง"

นายแพทย์วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การอภิปรายของฝ่ายค้านเหมือนกับว่าแต่เขาอิเหนาทำเองทั้งสิ้น อย่างกรณีจำนำข้าว เกิดความเสียหายอย่างไรใหญ่หลวง ไม่ใช่เฉพาะการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี แต่ยังมีข้าวที่รับจำนำเน่า ไม่สามารถจำหน่ายได้ ขาดทุนมหาศาล ซึ่งร้อยตำรวจเอกเฉลิมเคยเป็นประธานติดตามเรื่องนี้ แต่ไม่มีการแก้ไข

นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกคณะทำงาน กล่าวถึงเหตุผลที่ตั้งคณะทำงานเพื่อเป็นวอร์รูมนอกสภา ด้วยการรวบรวมทีมงานผู้หลักผู้ใหญ่ ด้วยสำนึกความเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และดำรงตำแหน่งเป็นข้าราชการการเมืองทั้งในอดีตและปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา ทำหน้าที่เป็นไม้ตีปากหมา มั่นใจว่าไม่มีประเด็นใดด่างพร้อยถึงขั้นจำเป็นต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งหากฝ่ายค้านอภิปรายถามกันตรงๆ เชื่อว่ารัฐมนตรีสามารถตอบได้ทั้งหมด แต่ที่กลัวคือการเล่นเกมนอกกติกา จึงมีการตั้งคณะทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเตรียมความพร้อม