หวั่น 'ไวรัสโคโรน่าระบาด' ฉุดรายได้แรงงานฟิลิปปินส์

หวั่น 'ไวรัสโคโรน่าระบาด' ฉุดรายได้แรงงานฟิลิปปินส์

หวั่น'ไวรัสโคโรนาระบาด'ฉุดรายได้แรงงานฟิลิปปินส์ โดยปีที่แล้ว แรงงานอพยพชาวฟิลิปปินส์ ส่งเงินกลับประเทศเพิ่มขึ้น 4.1% หรือ 30.1 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3%

ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ในกว่า20 ประเทศทั่วโลกขณะนี้ กลับกลายเป็นโอกาสในการทำเงิน หรือสร้างรายได้สำหรับแรงงานฟิลิปปินส์ในประเทศต่างๆ ทำให้แรงงานอพยพชาวฟิลิปปินส์ส่งเงินกลับประเทศได้มากถึง 30.1 พันล้านดอลลาร์และมีแนวโน้มว่าการส่งเงินกลับประเทศของแรงงานฟิลิปปินส์ที่ไปทำมาหากินในต่างแดนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันศุกร์ (14ก.พ.)ที่ผ่านมา บริเวณห้องโถงของสำนักงานบริหารการจ้างงานต่างประเทศของฟิลิปปินส์แทบจะแตก เพราะเหล่าแม่บ้านจำนวนมากที่กลับมาฉลองคริสต์มาสที่บ้านเกิดเมืองนอนเร่งทำเอกสารให้เสร็จเพื่อเดินทางกลับไปยังคูเวตและอีกหลายประเทศเพื่อกลับไปทำงาน หลังจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ยกเลิกคำสั่งห้ามให้ชาวฟิลิปปินส์ไปทำงานในคูเวต หลังเกิดคดีลูกจ้างชาวฟิลิปปินส์ถูกนายจ้างชาวคูเวตทุบตีจนถึงแก่ความตาย

“ โจฟลีน เลสตูปิโด” วัย 38 ปี เป็นหนึ่งในกลุ่มแรงงานชาวฟิลิปปินส์ที่กำลังวางแผนเดินทางกลับไปทำงานที่คูเวต บอกว่า “นายจ้างของฉันอยากให้ฉันกลับไปทำงานทันทีและพร้อมขึ้นค่าจ้างแรงงานให้เธอ ซึ่งการถูกล่วงละเมิดหรือทำร้ายร่างกายเป็นความเสี่ยงในการทำงานในต่างประเทศอยู่แล้ว”

แต่นอกเหนือจากประเด็นสิทธิแรงงาน บรรดาผู้กำหนดนโยบายของฟิลิปปินส์ต่างตระหนักดีว่ายังมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องของผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีต่อแรงงานอพยพชาวฟิลิปินส์จำนวน 10 ล้านคนและเงินที่แรงงานเหล่านี้ส่งกลับประเทศจำนวน 330,000 ล้านดอลลาร์ที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว แรงงานอพยพชาวฟิลิปปินส์ ส่งเงินกลับประเทศเพิ่มขึ้น 4.1% หรือ 30.1 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 3% แต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอของโรคโควิด-19 ที่ขณะนี้แพร่ระบาดไปกว่า20ประเทศทั่วโลก กำลังทำให้ฟิลิปปินส์เกิดความกังวลว่า เงินที่จะถูกส่งกลับประเทศอาจจะลดลง หรือไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนด

เนื่องจากแรงงานฟิลิปปินส์จำนวนมากที่ทำงานในต่างประเทศมีความเปราะบางและมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้มากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศและหลายภาคอุตสาหกรรมพร้อมใจลดกำลังการผลิตเพราะการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

อย่างน้อยมีลูกเรือชาวฟิลิปปินส์ 27 คนบนเรือไดมอนด์ พรินเซสที่ลอยลำอยู่นอกชายฝั่งทะเลในเมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าติดเชื้อไวรัสต้นตอของโรคโควิด-19 ซึ่งกรณีของเรือสำราญหรูหราไดมอนด์ พรินเซสและเรือสำราญเวสเตอร์ดาม ที่ถูกปฏิเสธจากหลายประเทศให้เข้าเทียบท่าจนได้รับอนุญาตจากรัฐบาลกัมพูชาให้เข้าเทียบท่าและขึ้นฝั่งที่เมืองสีหนุวิลล์ได้ สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วอุตสาหกรรมเรือสำราญ และแรงงานชาวฟิลิปปินส์ เนื่องจากเงินที่ถูกส่งกลับประเทศของแรงงานฟิลิปปินส์เป็นเงินที่ได้จากแรงงานที่ทำงานให้บริการบนเรือสำราญ

158225030923

เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) เปิดเผยว่า ฟิลิปปินส์รายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในประเทศเป็นรายแรก โดยผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวจีนที่มาจากเมืองอู่ฮั่น

“นี่เป็นครั้งแรกที่มีรายงานการเสียชีวิตนอกประเทศจีน” รพินทร อภัยสิงเห ผู้แทนของดับบลิวเอชโอประจำฟิลิปปินส์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม นายอภัยสิงเห กล่าวว่า จำเป็นต้องตระหนักว่านี่ไม่ใช่กรณีที่คนท้องถิ่นป่วยและเสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตคนนี้เดินทางมาจากศูนย์กลางของการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่น

ด้านฟรานซิสโก ดูเก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ชายผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึงฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 21 ม.ค. โดยเดินทางมาพร้อมกับผู้ป่วยไวรัสโคโรนารายแรกของประเทศฟิลิปินส์ ซึ่งเป็นหญิงชาวจีนวัย 38 ปี ที่เดินทางจากอู่ฮั่นผ่านทางฮ่องกง ในเวลาต่อมาชายผู้นี้มีอาการโรคปอดบวมรุนแรงและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 ก.พ.

เมื่อปี 2562 เงินที่ถูกส่งกลับประเทศของแรงงานฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ถูกส่งมาจากสหรัฐ ซึ่งมีแรงงานฟิลิปปินส์เข้าไปทำงานจำนวนกว่า 3 ล้านคน รองลงมาคือ ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหราชอาณาจักร แคนาดา ฮ่องกง เยอรมนี และคูเวต

เดนนิส ลาพิด ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ หวังว่า ปีนี้ยอดเงินส่งกลับประเทศจากแรงงานฟิลิปปินส์จะเพิ่มขึ้น 3% ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ แต่จะมีการทบทวนเป้าอีกครั้งในเดือนพ.ค.โดยจะมีการพิจารณาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ด้วย

ธนาคารกลางของฟิลิปปินส์ ยังเปิดเผยด้วยว่า เงินที่แรงงานฟิลิปปินส์ในต่างแดนส่งกลบประเทศในช่วงปี 2560 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 4.3% มาอยู่ที่ 28,100 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้อัตราการเติบโตจะลดลงจากปี 2559 เนื่องจากราคาน้ำมันโลกตกต่ำในช่วงต้นปี ทำให้แรงงานฟิลิปปินส์ในตะวันออกกลางตกงานหรือได้รับค่าตอบแทนลดลง

ปี 2560 เงินที่ชาวฟิลิปปินส์กว่า 2,500,000 คนส่งจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นจากปี2559 ถึง 3.4% ขณะที่เงินของชาวฟิลิปปินส์กว่า 3,500,000 คนที่ส่งจากสหรัฐก็เพิ่มขึ้นถึง 5.5% แม้โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐจะมีนโยบายเข้มงวดกับผู้อพยพก็ตาม