‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 31.47บาทต่อดอลลาร์

‘เงินบาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘อ่อนค่า’ ที่ 31.47บาทต่อดอลลาร์

เงินบาทถูกกดดันจากภาพตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยง หุ้นสหรัฐร่วงลงลึกสุด จากความกังวลเรื่องปัญหาไวรัสระบาดและเศรษฐกิจโลกที่มีทีท่าที่จะชะลอตัวในไตรมาสแรก

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.47 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.44 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ 31.40-31.55 บาทต่อดอลลาร์

ในช่วงคืนที่ผ่านมา ตลาดการเงินเข้าสู่โหมดปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) อย่างไม่ได้ตั้งตัว ดัชนี S&P500 ของสหรัฐร่วงลงลึกที่สุดถึง 1.24% ก่อนจะกลับมาปิดลดลง 0.38% ดึงให้ Euro Stoxx 50 ของยุโรปปรับตัวลง 1.09% ภาพตลาดผันผวนส่งผลให้บอนด์ยีลด์ทั่วโลกปรับตัวลงทันที เห็นได้จากยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีที่ระดับเพียง 1.51% ใกล้ทำจุดต่ำสุดตลอดกาล ขณะที่บอนด์ยีลด์เยอรมันก็ปรับตัวลงแตะ -0.44% หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 1622 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทั้งหมดเกิดจากความกังวลเรื่องปัญหาไวรัสระบาดและเศรษฐกิจโลกที่มีทีท่าที่จะชะลอตัวในไตรมาสแรก ขณะที่เงินดอลลาร์ก็แข็งค่าพร้อมกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นระหว่างสัปดาห์ นักลงทุนจึงกลับมากังวลเรื่องต้นทุนและผลประกอบการที่อาจออกมาแย่กว่าที่นักวิเคราะห์มองไว้

ส่วนของเงินบาท เชื่อว่าวันนี้จะถูกกดดันจากภาพรวมตลาดการเงินที่ปิดรับความเสี่ยงเช่นกัน โดยการเคลื่อไหวหลักมาจากนักลงทุนต่างชาติที่ขายเงินบาทบนความเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะแย่ลงจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวมากที่สุด ขณะเดียวกันก็เป็นสกุลเงินที่แพงในเชิงเปรียบสกุลเงินเอเชียอื่นๆ ยืนยันด้วยแรงขายของผู้ส่งออกที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดและโดยส่วนใหญ่เริ่มตั้งเป้าที่จะขายในระดับเหนือ 31.50-31.70 บาทต่อดอลลาร์ขึ้นไป

ด้านมุมมองค่าเงินระยะยาว ยังคงเป้าหมายเงินบาทสิ้นไปมาสหนึ่งที่ระดับ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ ด้วยสองปัจจัยหลักคือภาพตลาดที่ปิดรับความเสี่ยงตามฤดูกาล ขณะที่ความผันผวนในฝั่งเอเชียกลับสูงขึ้นแต่ผลตอบแทนลดลงเร็ว ซึ่งจะหนุนให้นักลงทุนเลือกพักเงินที่ดอลลาร์มากกว่าสกุลเงินฝั่งเอเชีย