ศาลแพ่งสั่ง 'เซปิง' จ่ายเหยื่อศัลยกรรม1.2แสน

ศาลแพ่งสั่ง 'เซปิง' จ่ายเหยื่อศัลยกรรม1.2แสน

"ผู้เสียหาย" เผยพอใจผลคำพิพากษา หลังบอบช้ำผลศัลยกรรมเป็นแผลใต้คาง เตือนระวังโฆษณาเดินจริง ลุ้นจำเลยอุทธรณ์ได้อีกยก

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.พ.63  ที่ห้องพิจารณา 703 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก  ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีผู้บริโภคหมายเลขดำ ผบ.1611/2562 ที่ "นางคำปัน" อายุ 57 ปี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องน.ส.เซปิง ไชยศาส์น , นายบทมากร วัฒนะนนท์ , บริษัท เอ็ม เอส เซอร์เจอรี่ เซ็นเตอร์ และน.ส.จันทร์จิรา แบ่งหน้อย เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ทุนทรัพย์ 9,978,000 บาท ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2559

ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษา "นายภิญโญภัทร์ ชิดตะวัน" ทนายความ น.ส.คำปัน เปิดเผยผลคำพิพากษาว่า ศาลแพ่ง มีคำพิพากษาให้ น.ส.เซปิงจำเลยที่ 1 ชดใช้เงินจำนวน 50,000 บาทแก่โจทก์ กรณีที่ลงโฆษณาเกินจริง เรื่องการผ่าตัดศัลยกรรมไร้รอยแผล และให้จำเลยที่ 3-4 ที่กระทำการประมาทเลินเล่อ ทำให้โจทก์เกิดมีบาดแผลที่ใต้คาง ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 50,000 บาทและให้ชดใช้อีกจำนวน 20,000 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาล โดยให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 ซึ่งโจทก์รู้สึกพอใจในผลคำพิพากษา เพราะโจทก์ต้องการให้ทราบว่ามีการโฆษณาเกินจริง

ด้าน "น.ส.คำปัน" ผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกพอใจและเคารพในคำตัดสินของศาล เป็นความตั้งใจของตนที่อยากจะหยุดขบวนการของจำเลยที่ 1 ไม่อยากให้มีใครต้องถูกหลอกลวงจากการโฆษณาเกินจริงอีก ส่วนแผลจากการผ่าตัดดึงใบหน้าและแผลเป็นทีใต้คางสร้างความบอบช้ำทางจิตใจและทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการใช้ชีวิต ส่วนด้านคดีจะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อไปหรือไม่ ขอปรึกษากับทางทนายความก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

อย่างไรก็ดีสำหรับผลคดีนี้ ยังเป็นเพียงการตัดสินของศาลชั้นต้น ซึ่งตามขั้นตอนกฎหมายคู่ความสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับแต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา