BTS - ซื้อ

BTS - ซื้อ

ภาพยังเป็นบวกอยู่

Event

ประชุมนักวิเคราะห์หลังประกาศงบ 3Q63 (ตุลาคม-ธันวาคม 2562)

lmpact

ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจจากการประชุม

ในการประชุมนักวิเคราะห์ของ BTS ผู้บริหารได้อธิบายผลการดำเนินงานงวด 3Q63 และ 9M63 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 2.46 พันล้านบาท (+106.9% YoY, +92.5% QoQ) และ 4.63 พันล้านบาท (+106.2% YoY) ตามลำดับ โดยประเด็นที่สำคัญได้แก่

        i) รายได้จากธุรกิจขนส่งมวลชนอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท ลดลง 49% YoY เนื่องจากรับรู้รายได้จากการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ าสายสีชมพูและเหลืองลดลงเหลือ 4.5 พันล้านบาท (จาก 1.36 หมื่นล้านบาทใน 3Q62) แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีรายได้ O&M เพิ่มขึ้นจาก 376 ล้านบาท เป็น 942 ล้านบาท เนื่องจากมีการเปิดให้บริการสายสีเขียวส่วนต่อขยายด้านทิศใต้เต็มรูปแบบ และมีการเปิดบริการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือห้าสถานีแรก นอกจากนี้ BTS ยังรับรู้
รายได้จากรายได้จากดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขนส่งมวลชนเพิ่มขึ้นจาก 357 ล้านบาทเป็น 646 ล้านบาท ในขณะที่ต้นทุนลดลง 8.90 พันล้านบาท เหลือ 6.85 พันล้านบาท เนื่องจากต้นทุนของงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ าสายสีชมพูและเหลืองลดลง

       ii) รายได้จากธุรกิจสื่อเพิ่มขึ้น 25% YoY เป็น 1.84 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้จากบริการสื่อดิจิตอล และสื่อ OOH ที่เพิ่มขึ้น 27% YoY และ 24% YoY ตามลำดับ

      iii) ส่วนแบ่งผลกำไรจากการลงทุนใน U City เพิ่มขึ้นจากการรับรู้กำไร 1.12 พันล้านบาทที่เกิดจากการขายหมอชิต แลนด์

ปรับเพิ่มประมาณการกำไร

เนื่องจากผลการดำเนินงานงวด 9M63 ออกมาดีเกินคาด เราจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY63-64F ขึ้นอีก 11.7% และ 11.0% ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนถึงการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี FY63-64F เป็น 20.4% และ 22.2% เนื่องจากรายได้จากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองลดลงในขณะที่รายได้ดอกเบี้ยที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งมวลชน และรายได้จากงาน O&M เพิ่มขึ้น

จับตาการปรับสัญญาสายสีเขียว

ข้อเสนอแก้ไขสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวเพื่อให้ผู้ใช้บริการจ่ายค่าโดยสารถูกลง (ไม่เกินเที่ยวละ 65 บาท) กำลังอยู่ระหว่างการนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เราใช้สมมติฐานว่า กทม. จะขยายสัมปทานสำหรับโครงข่ายสายสีเขียวทั้งหมดอีก 30 ปี ซึ่งจะทำให้มูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 4 บาท/หุ้น

Valuation & Action

หลังจากที่เราปรับสมมติฐานใหม่ ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี FY63 ของเราอยู่ที่ 4.30 พันล้านบาท (+49.7% YoY) และปี FY64 อยู่ที่ 5.59 พันล้านบาท (+29.9% YoY) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมายที่ 15.20 บาท

Risks

เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด และเกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง