รีบาวด์ตามรอบบ้าน

รีบาวด์ตามรอบบ้าน

ระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นรวมถึงความผันผวนของการประกาศงบ 2019 ที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ปรับตัวลง -8.14 จุด (-0.54%) ปิดที่ 1,505 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.8 หมื่นล้านบาท จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวตามการแพร่ระบาดไวรัส Covic-19 นอกจากนี้การเกิด Inverted yield curve ในพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี กับ 3 เดือนยิ่งเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม Fin, Trans และ ICT ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาเป็นซื้อสุทธิ 2,480 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 397 ล้านบาท อีกทั้ง Net Long TFEX 4,333 สัญญา

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นบวกคาด SET Index รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,515 - 1,520 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตาม Sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ดีดตัวขึ้นจากกระแสข่าวว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR (Loan Prime Rate) เพื่อบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัส Covic-19 นอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส Covic-19 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัว อีกทั้งภาวะตลาดยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นแรงราว 2.4% หลังสหรัฐออกมาตรการสกัดการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นรวมถึงความผันผวนของการประกาศงบ 2019 ที่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง

** 21 ก.พ. เวลา 15.00 น. ติดตามศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่ 

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTTEP, TOP, SPRC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นแรงและค่าการกลั่นเป็นบวก
  • กลุ่มส่งออก Elec (KCE, HANA, DELTA)  Food (CPF, TU) อานิสงส์ทิศทางเงินบาทอ่อนค่า
  • กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD , KTC ) ได้อานิสงส์ต้นทุนการเงินลดลงหลังกนง.ลดดอกเบี้ย 0.25%
  • หุ้นที่คาดว่าจะจ่ายปันผลปี 2019 ในระดับสูง TISCO, SIRI และ LH

หุ้นแนะนำวันนี้

  • TOP (ปิด 52.25 ซื้อ/เป้า 68) ผลกำไรสุทธิ 4Q19 แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่ม ขณะที่ระยะสั้นยังได้ Sentiment บวกจากค่าการกลั่นที่กลับมาเป็นบวกจากที่ติดลบในช่วงต้นปี รวมถึงราคาน้ำมันที่ค่อยๆฟื้นตัวส่งผลดีต่อภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทใน 1Q20
  • INTUCH (ปิด 57.5 ซื้อ/เป้า 79) ดักซื้อก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ในสัปดาห์หน้า โดย INTUCH ประกาศจ่ายปันผลสำหรับ 2H19 อีก 1.3 บาท ให้ Dividend yield ประมาณ 2.2% โดยจะขึ้น XD ในวันที่ 25 ก.พ. 2020 ขณะที่ราคาปัจจุบันยังไม่สะท้อนมูลค่าเงินลงทุน (NAV) ใน ADVANC และ THCOM โดยมี Discount จากมูลค่า NAV ถึง 28% สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 20-25%

บทวิเคราะห์วันนี้

ANAN (ปิด 2.12 ซื้อ/เป้า 3.0), AOT (ปิด 67.75 ถือ/เป้าใหม่ 61 เดิม 80)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว คาดหวังจีนปรับลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจ และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส Covid-19 เริ่มลดลงลง: นักลงทุนคาดหวังรัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นุเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid -19 โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Loan Prime Rate (LPR)  ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังตอบรับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่เริ่มลดลง โดยข้อมูล ณ วันที่ 18 ก.พ. 2020 มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 1,749 ราย ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. 2020
  • (+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน - ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จาก 3 ปัจจัยบวก: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.24 ดอลลาร์ (+2.4%) ปิดที่ระดับ 53.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุน คือ 1) คาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม, 2) กังวลความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย หลังมีรายงานว่าสหรัฐประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทในเครือของรอสเนฟท์ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย เนื่องจากบริษัทดังกล่าวให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่รัฐบาลเวเนซุเอลา  และ 3) คาดหวังกลุ่ม OPEC+ ปรับลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน
  • (-) AOT ออกมาตรช่วยเหลือผู้ประกอบการจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 กดดันรายได้และกำไรสุทธิของ AOT: AOT ประกาศ 3 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในท่ากาศยาน 6 แห่งเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 คือ 1) ลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือนในอัตรา 20% ตั้งแต่ 1 ก.พ.2020 – 31 มี.ค.2021, 2) ยกเว้นการเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนหรือรายปี ตั้งแต่ 1 ก.พ.2020 – 31 มี.ค.2021 และ 3) เลื่อนการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนที่จะต้องชำระในเดือน ก.พ. - ก.ค. 2020 ออกไปเป็นเวลา 6 เดือน เบื้องต้นเราคาดมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวจะกระทบรายได้ของ AOT ประมาณ 6% แต่จะกระทบกำไรสุทธิประมาณ 19% และมีผลกระทบต่อราคาพื้นฐานประมาณ 10 บาทต่อหุ้น