'ใบเฟิร์น พัสกร' เปิดใจครั้งแรก หลังดราม่าคบซ้อน 'เจโม่'

'ใบเฟิร์น พัสกร' เปิดใจครั้งแรก หลังดราม่าคบซ้อน 'เจโม่'

"ใบเฟิร์น พัสกร" เปิดใจครั้งแรก หลังดราม่าคบซ้อนหนุ่ม "เจโม่" พ่อพูดถูก "ถ้ากลับไปก็คงโง่"

ยังคงเป็นประเด็นร้อนที่หลายคนติดตามและให้ความสนใจ สำหรับกรณีดาราสาว ใบเฟิร์น-พัสกร พลบูรณ์ ลูกสาวของตลกดัง จาตุรงค์ มกจ๊ก หรือ จตุรงค์ โพธาราม ที่ซุ่มปลูกต้นรักจนเมื่อวาเลนไทน์ที่ผ่านมาได้เปิดตัวแฟนหนุ่ม เจโม่ ท่ามกลางความเซอร์ไพร้ส์ของทุกคน จากนั้นไม่นานก็มีสาวปริศนารายหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นน้องสาวของแฟนเจโม่ ออกมาแฉว่าฝ่ายชายกำลังคบซ้อนเพราะยังไม่ได้เลิกกับพี่สาวของตนที่คบกันมานานถึง 10 ปี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63  "ใบเฟิร์น พัสกร" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า วันที่ 14 เราก็แค่ไปทานข้าวกันปกติ แต่พอกินข้าวไปได้สักพักเขาก็โพสต์รูป รูปคู่ที่ทุกคนเห็น ตอนนั้นเราก็แค่รู้สึกว่าเขาคงอยากโพสต์วันวาเลนไทน์เป็นโมเมนต์อะไรสักอย่าง จากนั้นเฟิร์นก็โพสต์บ้าง ขนาดกลับมาถึงบ้านมาอ่านคอมเมนต์ก็ยังไม่มีอะไรนะคะ ทุกอย่างยังเป็นปกติ

จนกระทั่งวันที่ 15 เฟิร์นเริ่มเอ๊ะ เพราะมีคอมเมนต์แปลกๆ โผล่เข้ามา ตอนนั้นยอมรับว่างงค่ะ งงว่ามันคืออะไร จากนั้นเฟิร์นจึงเข้าไปทักไดเรกต์คนที่คอมเมนต์มาอินสตาแกรมเพราะดูว่าเขาน่าจะรู้เยอะ เราอินบ็อกซ์ไปถามปรากฎว่าทางนั้นเขาเองก็ส่งข้อความมาหาเฟิร์นเหมือนกัน ตอนนั้นเฟิร์นพูดอะไรไม่ถูกเลย นอกจากถามเขาว่า มันจริงเหรอ เขาก็เลยเล่าให้เราฟัง และก็ให้เบอร์ติดต่อเฟิร์นกลับมาเพื่อให้เฟิร์นได้คุย เฟิร์นบอกตามตรงนะคะว่าที่ผ่านมาเฟิร์นไม่รู้อะไรเลยจริงๆ และก็ขอโทษเขาไปด้วยเหมือนกันว่า และก็ฝากขอโทษผู้หญิงคนนั้นด้วยว่าไม่รู้จริงๆ ถ้ารู้เรื่องไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน

ตอนนั้นใจก็อยากโทรไปถามพี่โม่นะว่าเรื่องมันยังไงกัน ตอนนั้นปากคอสั้นไปหมด แต่ทำเป็นสตรองไปยังนั้น แล้วตอนนั้นอยู่คนเดียวไม่ได้มีใครปรึกษา ตอนที่รู้ความจริงก็คือช็อกไปเลย เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดกับเรา จากนั้นพอได้คุยกันเสร็จเฟิร์นก็ขอโทษ ซึ่งเขาคุยกับเฟิร์นดีมากๆ เลยนะ เขาบอกเฟิร์นด้วยว่าเขาเคยเตือนเฟิร์นแล้วทางไดเรกต์แต่เฟิร์นไม่เห็น เพราะอินสตาแกรมมันไม่เตือน

จากนั้นทางพี่เจโม่เขาก็โทรมาหาเฟิร์น เฟิร์นก็เลยได้ถามเขาว่ามันจริงไหม มันเป็นอะไรยังไง ซึ่งเขาก็ยอมรับ ยอมรับว่ายังคุยกันกันอยู่ในไลน์จริง แค่ไม่ได้ไปมาหาสู่ก็เท่านั้นเอง แต่เขาไม่ได้พูดคำว่าคบซ้อนนะ เขาแค่บอกว่าเป็นตามนั้น

เฟิร์นคิดว่าตังเองถูกหลอกอยู่แล้ว เพราะมันชัด แต่เราไม่รู้ว่าเจตนายังไง เราแค่รู้สึกว่าเราโดนกับตัวเองแล้ว เสียใจนะคะตอนได้ฟังความจริงจากปากเขาก็เสียใจ เนื่องจากเราไม่เคยคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดกับตัวเอง ช็อกค่ะ ไม่อยากคุยอะไรแล้ว ไม่ได้โมโหแต่มันทำอะไรไม่ถูกมากกว่า มือมันสั่นไปหมด แล้วมีคำถามในหัวว่าใช่หรอ จริงหรอ

เฟิร์นกับพี่เจโม่เรารู้จักกันผ่านกลุ่มเพื่อนประมาณปลายเดือนตุลาคม ซึ่งตอนแรกก็เฉยๆ นะ แต่พอได้คุยกันบ่อยก็รู้สึกดีมากขึ้น เฟิร์นก็ไม่เคยระแคะระคายอะไรเลย และด้วยความที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน 24 ชั่วโมง แถมเขาเองก็บอกด้วยว่าเขาไม่มีใคร เขาไม่มีแฟน ส่วนจุดที่ทำให้เฟิร์นมั่นใจก็คือเฟิร์นรู้จักกับเพื่อนเขา เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วเขาเคยพาเฟิร์นไปเจอครอบครัวเขาทุกคน ทุกอย่างเป็นปกติมากๆ แล้วเฟิร์นไม่ใช่ผู้หญิงที่ไปนั่งเช็คโทรศัพท์ของแฟน เราก็ไม่อยากให้ใครมาเช็คมือถือเหมือนกัน

บทสรุป ณ ตอนนี้ หนูออกถอยมาแล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้เรามีความรู้สึกดีกับเขามาก ถ้าถามว่าในอนาคตยังตอบตัวเองไม่ได้ เขาก็มาง้อ เขาก็ยังติดต่อมาอยู่ ซึ่งหนูก็คงตอบได้เท่าที่หนูตอบ คุยได้เท่าที่คุยได้ ส่วนเรื่องให้โอกาสตอนนี้ เฟิร์นขอเอาตัวเองออกมาก่อนดีกว่าค่ะ มันไม่ได้ง่ายแล้วแน่นอน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันหนัก หนูยังไม่ได้คุยกับพ่อ แต่อย่างที่พ่อบอกว่าถ้ากลับไปก็คงโง่ เอ่อก็คงเป็นไปตามที่พ่อพูดค่ะ

สภาพจิตใจเฟิร์นตอนนี้ดีขึ้นกว่าตอนแรกมากๆ เพราะวันแรกที่เกิดเรื่องเฟิร์นร้องไห้ เฟิร์นโทรมสุดๆ เฟิร์นไม่อ่านข้อความที่หลายๆ คนส่งมา แต่เฟิร์นขอบคุณทุกคนมากจริงๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้ เฟิร์นจะพยายามตอบกลับให้ครบทุกคนเลยนะคะ เรื่องนี้ให้ประสบการณ์กับเฟิร์นมากค่ะ หากจะมีรักครั้งต่อไปก็พักก่อน คงต้องดูเยอะขึ้น