การปรับประมาณการลงยังคงกดดันดัชนี โรงไฟฟ้าใหญ่กลับมาน่าสนใจในเชิงกลยุทธ์

การปรับประมาณการลงยังคงกดดันดัชนี โรงไฟฟ้าใหญ่กลับมาน่าสนใจในเชิงกลยุทธ์

การแพร่ระบาดในญี่ปุ่นอาจเร่งขึ้นและกดดันจิตวิทยาการลงทุน

สถานการณ์ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 74,142 ราย และเสียชีวิต 2,0002 ราย  หายเป็นปกติ 14,206 ราย อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 4 วันที่ผ่านมา ทำให้อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ออกมาเตือนว่าญี่ปุ่นอาจใกล้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโคโรนา (Covid-19) สถานการณ์ดังกล่าวอาจกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค รวมทั้งงานโอลิมปิก 2020 ขณะที่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นคิดเป็น 4.3% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย ทำให้หากเกิดการระบาดจริง จะส่งผลกระทบต่อทั้งทางตรงและอ้อมต่อไทย

การปรับประมาณการทางเศรษฐกิจสร้างแรงกดดันต่อดัชนี หลายสำนักวิจัยเริ่มปรับประมาณการ GDP ลงเหลือระดับ 2% ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อผลประกอบการบจ.โดยเฉพาะในกลุ่มที่อิงการเติบโตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะธนาคาร และค้าปลีก อีกทั้งกลุ่มที่อิงเศรษฐกิจโลก หลังโมเมนตัมการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นในช่วงปลายปีก่อนเริ่มสะดุดเพราะการระบาดของไวรัส เราแนะนำนักลงทุนกำหนดจุดตัดขาดทุนและระวังความผันผวนของหุ้นที่มีความเสี่ยงถูกปรับลดประมารการหลังการประกาศงบไตรมาส 4/62 ที่กำลังเกิดขึ้น

ปัจจัยในประเทศ ติดตามพ.ร.บงบประมาณ 63 และการตัดสินคดียุบพรรค เม็ดเงินจากร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ที่ใกล้ประกาศเป็นกฎหมาย จะช่วยสร้างจิตวิทยาเชิงบวกต่อการใช้จ่ายและการลงทุนในประเทศ อาทิ รับเหมาก่อสร้างและนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการประมูลโครงการขนาดใหญ่อย่าง TEAMG (ส่วน TASCO อาจไม่ได้ผลดีมากนัก แต่คาดมีโอกาสรายงานกำไรดีกว่าคาดจากต้นทุนน้ำมันที่ใช้ผลิตยากมะตอยลดลง)

เลือกเก็งกำไรรายตัว ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ปรับฐานมาก่อนหน้ามีโอกาสฟื้นตัว แม้เราจะมองหุ้นหลายตัวเกินราคาเหมาะสมแต่ในเชิงกลยุทธ์มองเป็นโอกาวสเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนที่น่าสนใจใน GPSC, BGRIM, GULF, EGCO สำหรับสาธารณูปโภคในนิคมฯ อาจได้รับผลกระทบจากภัยแล้งทำให้งบครึ่งปีแรกอ่อนแอ แต่ไม่เปลี่ยนแปลงปัจจัยบวกระยะยาว ทยอยสะสม EASTW, WHAUP เรามองความกังวลผลประกอบการจะทำให้หุ้นในกลุ่มรายได้มั่นคงที่ราคาไม่ รวมถึงพลังงานทดแทน มีโอกาสเป็นเป้าหมายการลงทุน อาทิ BPP, SSP, GUNKUL, BCPG เป็นต้น

ภาพรวมกลยุทธ์ ภาพรวมยังถูกกดดันจากการปรับลดตัวเลข GDP คาดการณ์ ซึ่งนำมาสู่ความเสี่ยงต่อการปรับลดคาดการณ์กำไรบจ.ลง อย่างไรก็ตาม หุ้นในบางกลุ่มอุตสาหกรรมยังสามารถลงทุนได้ // หุ้นแนะนำวันนี้ GPSC, BPP* /เก็งกำไร ACE* (เป้า 4.00 ตัดขาดทุน 3.20), SAMART* (เป้า 9.00 ตัดขาดทุน 7.90)

แนวรับ 1500 จุด / แนวต้าน : 1525 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%.

ประเด็นการลงทุน

อัพเดทตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 – จีน อัพเดทตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิต จากไวรัสโควิด-19 ขึ้นสู่ระดับ 75,000 ราย และ 2,000 ราย ตามลำดับ

ราคาทองปรับขึ้นแรง – ราคาทองคำดีดขึ้นแรง เบรกแนวต้านสำคัญที่ 1600 เหรียญฯ ต่อออนซ์ สะท้อนความกังวลของนักลงทุนที่เพิ่มสูงขึ้นจากแนวโน้มเศรษฐกิจโตชะลอ และ การกลับมาลดอัตราดอกเบี้ยของกลุ่มธนาคารกลาง

ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน ยุติข้อพิพาท – ครม.มีมติเห็นชอบขยายสัมปทานทางด่วน 15 ปี 8 เดือน เพื่อยุติข้อพิพาทระหว่าง กทพ. และ BEM 17 คดี มูลค่า 1.3 แสนลบ.

แบงก์ชาติระบุเศรษฐกิจไทยไม่นิ่ง – ธปท.เตรียมทบทวน GDP ปี 63 ใหม่ เดือน มี.ค.นี้หลังหลายปัจจัยลบรุมเร้า สศค.เตรียมเสนอแผนกระตุ้นท่องเที่ยวให้ รมว.คลังพิจารณาวันนี้

ROBINSตลท.เพิกถอนหลักทรัพย์จากการเป็นหุ้นจดทะเบียน มีผล 20 ก.พ.63 ซึ่งเป็นไปตามแผนปรับโครงสร้างกลุ่มเซ็นทรัล โดย CRC จะเข้าซื้อขายวันแรกในวันพรุ่งนี้

ค่าระวางเรือ – อยู่ที่ 450 เปลี่ยนแปลง +16 หรือ +3.69%

ประเด็นติดตาม: 20.พ. – FOMC meeting minute, 21.พ. – EU Manufacturing PMI / US Manufacturing PMI เดือน ก.พ., 22-23 ก.พ. ประชุม G20

 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)