‘การ์ตูน’ เครื่องมือไต้หวันสู้ไวรัสโคโรน่า

‘การ์ตูน’ เครื่องมือไต้หวันสู้ไวรัสโคโรน่า

การรับมือกับไวรัสโคโรนาถือว่าเป็นศึกใหญ่ จีนใช้คำขวัญแข็งกร้าวของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ดินแดนประชาธิปไตยอย่างไต้หวันใช้การ์ตูนน่ารักชวนหัว คลายเครียดให้ประชาชนแถมยังให้ความรู้ว่า ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรท่ามกลางไวรัสระบาด

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แต่ละวันหน่วยงานราชการไต้หวันใช้ภาพสัตว์น่ารักเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อแก้ปัญหาเฟคนิวส์และให้ความรู้ป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา

กระทรวงสาธารณสุขใช้การ์ตูนสุนัขพูดได้ พันธุ์ชิบะไอนุ นาม “จงไช่” ช่วยเผยแพร่ข้อมูล ซึี่งได้รับความนิยมมากพิสูจน์ได้จากแฮชแท็กชื่อจงไช่ที่กลายเป็นไวรัล และโพสต์ถูกแชร์ไปหลายแสนครั้ง ไม่ว่าจะเป็นคำแนะนำด้านสุขอนามัย ระเบียบการกักตัว เตือนผู้คนให้สวมหน้ากาก และแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอย่างมีสติ เนื่องจากขาดแคลนอย่างมากนับตั้งแต่ไวรัสโคโรนาระบาดในจีน

“เก็บหน้ากากให้คนที่จำเป็นต้องใช้ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่ ลดการใช้มือสัมผัสดวงตา จมูก และปาก” หนึ่งในข้อความเตือนประชาชนจากเจ้าจงไช่กล่าวเอาไว้

ส่วนข้อความเตือนวันวาเลนไทน์ จงไช่แนะนำวิธีออกเดตช่วงไวรัสระบาด ที่มีตั้งแต่การล้างมือบ่อยๆ ไปจนถึงสุขุม รอบคอบ และมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย จากนั้นจบโพสต์ด้วยการตั้งคำถาม “ถ้าฉันเป็นโสดจะทำยังไง” “งั้นก็อยู่บ้านสิ” เจ้าสุนัขเหน็บ

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศใช้รูปนกพิราบสวมหน้ากาก ประกาศระเบียบการเข้าเมืองสำหรับชาวต่างชาติที่เพิ่งไปจีน พร้อมคำขวัญ “ไวรัสออกไป ปลอดภัยเข้ามา”

กระทรวงกิจการเศรษฐกิจใช้รูปห่าน ประกาศข้อมูลสยบข่าวลือที่กล่องกระดาษใส่อาหารแบบย่อยสลายได้กำลังขาดแคลนว่าเป็นข่าว “เกินจริง”

วิธีการเหล่านี้แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ ทางการใช้พลังการโฆษณาชวนเชื่ออันเชี่ยวชาญ ทำสงครามประชาชนต้านไวรัส ที่คร่าชีวิตผู้แล้วไปกว่า 1,800 ราย (นับถึงวันที่ 18 ก.พ.)

การรณรงค์ของรัฐใช้สื่อทางการปลุกอารมณ์รักชาติจัดการกับการแพร่ระบาด ชวนให้นึกถึงตอนที่เหมา เจ๋อตงร่ำไห้เพื่อระดมมวลชน

สโลแกนที่ติดไว้ ณ เขตกักกันโรคในมณฑลหูเป่ย์ ศูนย์กลางการแพร่ระบาด เช่น“ไปเยี่ยมกันคือไปฆ่ากัน” “ไปด้วยกันคือการฆ่าตัวตาย”

นี่คือความต่างระหว่างจีนกับไต้หวัน ที่แม้จะใกล้ชิดกันด้านวัฒนธรรมและพื้นที่ แต่ไต้หวันรับมือการระบาดได้เร็วกว่า ออกระเบียบมาอย่างรวดเร็วแล้วห้ามผู้ที่มาจากแผ่นดินใหญ่เข้าไต้หวัน

เกาะแห่งนี้ ที่รัฐบาลปักกิ่งมองว่าเป็นดินแดนของตนจึงถูกกีดกันไม่ให้เป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) มีผู้ป่วยเสียชีวิตรายแรกเมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) แต่ยอดผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วยืนอยู่ที่เพียง 20 คน

ผู้คนเกิดความตื่นตระหนกในช่วงสั้นๆ แห่กันไปซื้อหน้ากาก จากนั้นทางการจึงควบคุมให้ซื้อได้คนละ 2 ชิ้นสัปดาห์ละครั้ง โดยต้องใช้บัตรประกันสุขภาพ

รวมทั้งจำกัดจำนวนหน้ากากที่จะนำออกไปต่างประเทศได้คนละไม่เกิน 250 ชิ้น สัปดาห์ก่อนเรือยามชายฝั่งสกัดเรือประมงลำหนึ่งที่พยายามลักลอบขนหน้ากาก 71,000 ชิ้น

พรรครัฐบาล “ประชาธิปไตยก้าวหน้า” ที่ถูกปักกิ่งรังเกียจเดียดฉันท์จากนโยบายแยกเอกราชไต้หวัน เชี่ยวชาญเรื่องการใช้มีมเก๋ๆ เรียกเสียงสนับสนุนจากประชาชน

ช่วงหาเสียงเลือกตั้งก่อนได้ชัยชนะแบบถล่มทลายสมัยที่ 2 เมื่อเดือน ม.ค. ประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ใช้รูปการ์ตูนในข้อความหาเสียงอยู่เสมอ นายกรัฐมนตรีซู เจินชางก็มาแบบเดียวกัน สัปดาห์นี้บัญชีโซเชียลมีเดียของเขาใช้รูปการ์ตูนเตือนประชาชนไม่ให้ตื่นตระหนกแห่ซื้อกระดาษชำระ

“เรามีแค่ก้นเดียว อย่าตุน อย่าเชื่อข่าวลือ” นายกฯ ระบุ โดยใช้หลักการพ้องเสียงอันแยบยล เพราะในภาษาจีนกลางคำว่า “ตุน” และคำว่า “ก้น” ใช้ตัวอักษรออกเสียงเหมือนกัน