ข่าวดี หญิงจีนติดไวรัสโคโรน่าอาการหนัก ใช้สูตรยาราชวิถี หายดีกลับบ้านได้

ข่าวดี หญิงจีนติดไวรัสโคโรน่าอาการหนัก ใช้สูตรยาราชวิถี หายดีกลับบ้านได้

หญิงจีนรักษาสูตรยาราชวิถี หายดีกลับบ้านได้ รวมยอดรักษาหาย 17 ราย ผู้ป่วยหนัก 2 รายอาการยังวิกฤติ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019หรือโควิด-19ว่า สถานการณ์ในต่างประเทศ ขณะนี้มีประเทศที่มีการแพร่ระบาดในประเทศเป็นวงกว้างมากขึ้น คือสิงคโปร์ ญี่ปุ่น เวียดนามกำลังมีผู้ป่วยในประเทศเพิ่มขึ้น และเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งประเทศที่เริ่มมีความเสี่ยงผู้เดินทางเข้าประเทศก็มีการดำเนินการคัดกรอง เฝ้าระวังผู้เดินทางอย่างเข้มข้น โดยเริ่มคัดกรองทุกเที่ยวบินจากสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฮ่องกงแล้ว ส่วนเวียดนามอยู่ระหว่างการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะมีผู้ป่วยนำเข้าจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย ได้แก่ ผู้โดยสารเข้าประเทศ และคนไทยที่ไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดกลับมา หาก 2 ปัจจัยนี้ลดลง ความเสี่ยงก็จะลดลง แต่ถ้าเพิ่มทั้งคู่ความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยยืนยันการติดเชื้อที่รักษาหายดีแล้ว กลับบ้านได้อีก 2 ราย เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสมเท่าเดิมคือ 35 ราย รักษาหายกลับบ้านได้ 17 ราย ยังอยู่รักษาในโรงพยาบาล18 ราย โดยผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง 2 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและเครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย โดยมี 1 รายที่ใช้เครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด มีแนวโน้มอาการกระเตื้องขึ้น แต่ยังอยู่ในภาวะวิกฤติ ส่วนรายที่มีวัณโรคร่วมด้วย อาการยังทรงๆ ซึ่งแพทย์ให้การรักษาเต็มที่ทั้ง 2 รายและยังถือว่าอยู่ภาวะวิกฤติทั้งคู่

ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 17 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 872 ราย คัดกรองจากสนามบิน 55 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 817 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 790 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 82 ราย

ผู้ป่วยหนัก2รายอาการยังวิกฤติ
“กรณีผู้ป่วยหนัก 2 รายนี้ยืนยันได้อย่างหนึ่ง คือ ประเทศไทยมีผู้ป่วยยังไม่ถึง 100 ราย แม้ผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่โรคนี้ด้วยตัวของมันเอง สามารถที่ก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ เพราะฉะนั้น แม้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อาการเบา แต่ไม่ได้แปลว่าจะไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น แม้แพทย์ได้ทุ่มเทการรักษาเต็มที่ ใช้องค์ความรู้ที่มีรวมถึงทฤษฎีต่างๆในการรักษา เช่น ใช้พลาสมาจากผู้ป่วยที่หายดีแล้ว หรือการใช้ยาต้านไวรัส เป็นการพยายามดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มที่ที่สุด”นายแพทย์ธนรักษ์กล่าว

หญิงจีนรับสูตรยาราชวิถีหายดี
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในส่วนของผู้ป่วย 2 รายที่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้นั้น 1 รายเป็นนักท่องเที่ยวจีนที่รักษาอยู่ที่สถาบันโรคทรวงอก และอีกรายเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน ที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งมีอาการรุนแรงขณะที่รับส่งต่อมาจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน และได้รับการรักษาด้วยสูตรยาโรงพยาบาชราชวิถีก่อนหน้านี้ แพทย์ให้การรักษาจนดีขึ้นและอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว

คนไทยกลับบ้านถือว่าปลอดภัย
นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 คนไทยที่เดินทางกลับจากอู๋ฮั่นจะครบกำหนดระยะการเฝ้าระวังโรค ซึ่งจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้มีการเก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจเชื้อซ้ำอีกครั้ง ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่ากรณีคนที่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้เป็นคนแข็งแรง และเป็นบุคคลไม่แพร่โรค

เข้มเรือเสี่ยงห้ามเข้าจอด
รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า ในส่วนของด่านอากาศยังมีการคัดกรอง เฝ้าระวังอย่างเข้มข้นเต็มที่เหมือนเดิม ส่วนด่านน้ำ ดำเนินการเต็มที่เช่นกัน หากมีเรือที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อก็พร้อมที่จะปฏิเสธไม่ให้เข้าจอด โดยจะพิจารณาตามความเสี่ยง หากไม่ผ่านประเทศที่มีความเสี่ยงของการระบาดก็จะอนุญาตให้จอดได้ แต่จะมีการคัดกรองคนบนเรือเข้มข้นเช่นกัน


กรณีเรือเวสเตอร์ดัม ผลการหารือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับกระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์2563 มีมติตรงกันว่าไม่รับเครื่องบินเช่าเหมาลำ (charter flight) ที่รับผู้โดยสารจากเรือสำราญลำนี้จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ในส่วนของผู้โดยสารที่เข้าประเทสไทยมาก่อนหน้านั้นได้เดินทางออกนอกประเทศไปเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือยังอยู่ในประเทศไทย 4 ราย เป็นคนไทย 2 ราย และต่างชาติ 2 ราย ได้มีการดูแลใกล้ชิด ติดตามอาการทุกวัน โดยในส่วนของต่างชาติกำลังจะเดินทางออกนอกประเทศไทย โดยทุกคนได้รับการตรวจด้วยเจ้าหน้าที่ควบคุมโรค เก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ผลเป็นลบทุกคน และยังมีการติดตามอยู่ต่อเนื่อง 14 วัน

    

วันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลราชวิถี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) พร้อมด้วยนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เยี่ยมผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลราชวิถีมีผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ 1 ราย เป็นหญิงชาวจีน อายุ 74 ปี ที่ได้รับการส่งต่อจากโรงพยาบาลเอกชน ในอำเภอหัวหิน ด้วยอาการปอดบวมรุนแรง และตรวจพบโควิด-19 (COVID-19) ได้รับยาโลพินาเวียร์ ริโทนาเวียร์( Lopinavir Ritonavir) 800/200 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 5 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น
    แพทย์โรงพยาบาลราชวิถีจึงได้เพิ่มการให้ยาโอเซลทามิเวียร์(Oseltamivir) 300 มิลลิกรัมต่อวัน ปรากฏว่าได้ผลดี ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการให้ผลลบภายใน 48 ชั่วโมง และอาการปอดบวมรุนแรงวิกฤตดีขึ้นใน 8 – 12 ชั่วโมง จากนั้นแพทย์ได้เพิ่มยา ยาโลพินาเวียร์ ริโทนาเวียร์ 800/200 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับ โอเซลทามิเวียร์ 300 มิลลิกรัมต่อวัน ต่ออีก 10 วัน ซึ่งผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ (PCR) จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ทั้ง 4 ครั้ง ให้ผลลบมาตลอด 20 วัน ถือว่าหายจากโรค สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ และจะตรวจสุขภาพซ้ำอีกครั้งใน 1 – 2 สัปดาห์ ว่าร่างกายแข็งแรงพร้อมขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ
       ด้านนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่ทีมแพทย์โรงพยาบาลราชวิถีได้ค้นคว้าจากการศึกษาเดิมว่ายาโอเซลทามิเวียร์ อาจมีผลต่อการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงได้ให้ยาเพิ่มเติม ปรากฏว่าได้ผลดี โดยทีมแพทย์ผู้ให้การรักษากำลังเขียนรายงานวิจัยครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ต่างประเทศ