WHA-ปตท.รุก 5G หนุนต่อยอดธุรกิจ

WHA-ปตท.รุก 5G  หนุนต่อยอดธุรกิจ

“ดับบลิวเอชเอ” ยื่นขอใบอนุญาตแซนด์บอกซ์ ทดสอบ 5จี พื้นที่ใหญ่ที่สุดครอบคลุม 3 นิคมฯ ปตท.เกาะติดเทคโนโลยี พัฒนาบุคลากร พร้อมใช้ “เอไอ-ออโตเมชั่น” หนุนแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย

เทคโนโลยี 5 จี ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจบริการและภาคการผลิต ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการหลายรายได้ศึกษาและวางแผนในการนำ 5จี มาใช้ในธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดับบลิวเอชเอได้ขอใบอนุญาตศึกษาและการใช้งานจริง (Sandbox) ระบบ 5จี และคาดว่าหลังการประมูล 5จี จะลงนามเอ็มโอยูกับภาครัฐ โดยได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อเตรียมนำ 5จี มาใช้ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ซึ่งใช้ได้โรงงาน ธุรกิจบริการสุขภาพ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ไอโอที ซึ่งควรสร้างการรับรู้และเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่

สำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่มีการนำไอโอทีและระบบอัตโนมัติมาใช้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ 5 จี ซึ่งควรมีการวางโรดแมปเพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัลผลักดันอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งจะทำให้การลงทุนไม่สูญเปล่า และทุกฝ่ายได้ประโยชน์จาก 5จี โดยโรงงานจะได้วางแผนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร และลูกค้าใหม่ที่จะตั้งโรงงานจะได้เตรียมใช้เครื่องจักรที่รองรับเทคโนโลยี 5 จี เลย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะทำให้ต้นทุนลดลง ศักยภาพสูงขึ้น มีกำไรมากขึ้น ทำให้การผลิตเร็วขึ้น โดยดับบลิวเอชเอจะเริ่มในนิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง

“ในขณะนี้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมหลายรายวิ่งเข้ามาหาเรา ผู้ให้บริการ 5 จี ที่เข้ามาลงทุนในนิคมฯของเราใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะเราเตรียมโครงสร้างต่างๆไว้แล้ว”

ทดสอบ“5จี”พื้นที่ใหญ่สุด

นายไกรทศ องค์ชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด กล่าวว่า ดับบลิวเอชเอ ได้ขอใบอนุญาตศึกษาและการใช้งานจริง (Sandbox) ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ 3 แห่ง ซึ่งทดสอบ 5จี ที่มีพื้นที่ใหญ่สุด ต่างจากรายอื่นที่ขอใบอนุญาตทดสอบ 5จี ในสนามบินหรือมหาวิทยาลัย โดยดับบลิวเอชเอจะให้ทุกค่ายมาทดสอบ 5 จี

สำหรับเทคโนโลยี 5 จี ที่ดับบลิวเอชเอ จะนำไปใช้จะเกิดประโบชน์ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยในนิคมอุตสาหกรรม เช่น เทคโนโลยีกล้องซีซีทีวีจดจำใบหน้า ที่สแกนใบหน้าเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อป้องกันอาชญากรรม ช่วยให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม ยกระดับการใช้เทคโนโลยีเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ โดยให้เครื่องจักรเหล่านี้สื่อสารกันได้รวดเร็ว

ทั้งนี้ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอมีลูกค้าเป็นโรงงงานมากที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ใช้หุ่นยนต์จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้โรงงานเข้าถึงเทคโนโลยีอัตโนมัติและหุ่นยนต์ได้ง่าย รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ เช่น การตรวจสอบใบขับขี่ การตรวจสอบความสามารถผู้ขับว่าพร้อมขับรถหรือไม่ การเก็บข้อมูลผู้ขับขี่ และการติดตามรถขนส่งแบบเรียลไทม์ที่แม่นยำรวดเร็วกว่าจีพีเอส รวมทั้งยกระดับคลังสินค้าอัจฉริยะของดับบลิวเอชเอได้มาก

“5จี เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอนาคต ช่วยขยับภาคอุตสาหกรรมไปสู่การใช้เทคโนโลยีชั้นสูงได้เร็วขึ้น และช่วยให้ลูกค้าของดับบลิวเอชเอเข้าถึงเทคโนโลยี รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในโรงงาน และธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ทำให้มนุษย์และหุ่นยนต์ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น และดับบลิวเอชเอได้พัฒนาแอพพลิเคชั่นร่วมกับญี่ปุ่น เพื่อใช้เอไอยกระดับให้เครื่องจักรเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Machine Learning)”