ธปท. คาด โควิด-19 กระทบแรง ในไตรมาสแรกปีนี้ หวังเศรษฐกิจกลับมาโตเกิน 3% ปี64

ธปท. คาด โควิด-19 กระทบแรง ในไตรมาสแรกปีนี้ หวังเศรษฐกิจกลับมาโตเกิน 3% ปี64

ธปท.คาดผลกระทบโควิด- 19 กระทบรุนแรงสุดใน ไตรมาสแรกเท่านั้น หวังทยอยปรับขึ้นในระยะข้างหน้า รับจีดีพีสภาพัฒน์ที่ออกมาต่ำกว่าที่ธปท.ประเมินไว้ ที่ 2.8 % เตรียมปรับประมาณจีดีพีใหม่25มี.ค.นี้ หวังปี 64 เศรษฐกิจโตเกิน3 %

     นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขการขยายตัวหรือ จีดีพีปี 2562 ที่ 2.4 % และช่วงประมาณการจีดีพีปี 2563 ที่ 1.5-2.5 % ที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) ประกาศ ต่ำกว่าตัวเลขที่ ธปท. ประมาณไว้ ณ เดือนธันวาคม 2562 ที่ 2.5% และ 2.8 %

    ซึ่งสะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงแรง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากผลกระทบของภัยแล้งต่อผลผลิตเกษตร และผลกระทบจากความล่าช้าของ พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 2563 ต่อการใช้จ่ายภาครัฐ ที่มากกว่าคาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปีนี้

     ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2563 ซึ่งเป็นปัจจัยใหม่ที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย

     อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 คณะกรรมการฯ ได้ประเมินข้อมูลล่าสุด ณ ขณะนั้น พบว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้มีแนวโน้มจะขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมมาก คณะกรรมการฯ จึงมีมติเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อช่วยประคับประคองเศรษฐกิจ โดยไม่ต้องรอตัวเลขทางการจากสภาพัฒน์ฯ

     ทั้งนี้ ธปท. จะเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจไทยชุดใหม่ในวันที่ 25 มีนาคม 2563 โดยในระหว่างนี้ ธปท. จะติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นปัจจัยลบที่มีนัยสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้

    โดยเบื้องต้นคาดว่าผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรน่าจะรุนแรงที่สุดในไตรมาสแรกของปีนี้ ก่อนที่จะทยอยปรับดีขึ้นหลังสถานการณ์คลี่คลาย โดยเศรษฐกิจไทยน่าจะกลับมาขยายตัวเกิน 3% ได้อีกในปี 2564 หากไม่มีปัจจัยลบอื่นเพิ่มเติม