นักท่องเที่ยวจีนไม่มา 'เสียหายทั้งอาเซียน'

นักท่องเที่ยวจีนไม่มา 'เสียหายทั้งอาเซียน'

นับตั้งแต่ไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ระบาด การท่องเที่ยวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัด ปางช้างเงียบเหงา ตลาดขายของไม่ได้ คนขับตุ๊กตุ๊กนั่งง่วง รายได้จากการท่องเที่ยวโดยรวมหายไปหลายพันล้านดอลลาร์เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวจีน

ตั้งแต่หลวงพระบางทางภาคเหนือของลาวถึงพัทยาของไทย ไปจนถึงฮอยอันในเวียดนาม และเมืองกาสิโน “สีหนุวิลล์” ในกัมพูชา ล้วนได้รับผลกระทบกันไปหมดเพราะนักท่องเที่ยวจีนเจอคำสั่งห้ามเดินทาง

“เราไม่มีนักท่องเที่ยวจีนเลยสักคน 10 วันแล้วตั้งแต่เขาปิดถนนจากยูนนาน การค้าการขายลดลง 20-30% และน่าจะแย่ลงอีก” อ่อง เทา แม่ค้าผลไม้ปั่นวัย 47 ปี ที่หลวงพระบางโอดครวญกับสำนักข่าวเอเอฟพี

มัคคุเทศก์ พนักงานห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารต่างรับรู้ถึงความเสียหาย เมื่อชาวจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดของโลก ต้องอยู่ในประเทศของตนในช่วงเกิดวิกฤติสาธารณสุขโลก

“เพื่อนของผมเสียลูกทัวร์ไป 4-5 กลุ่ม แต่เพื่อนๆก็ต้องกินต้องใช้ในช่วงโลว์ซีซัน”ตี๋ ไกด์แห่งหลวงพระบางเล่าสถานการณ์โดยมีรถตุ๊กตุ๊กมากมายจอดนิ่งอยู่เบื้องหลัง

แต่ในลาว ประเทศที่มีทรัพยากรน้อยที่สุดประเทศหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจจะมีมุมดีอยู่บ้างต่อการที่เศรษฐกิจเสียหายลงอย่างฉับพลัน

“เราไม่รู้จะดูแลตัวเองยังไง รัฐบาลไม่บอกอะไรกับประชาชนเลย บางทีการที่คนจีนน้อยอาจจะเป็นสิ่งดีๆ ตอนนี้ก็ได้” ตี๋กล่าวเสริม เขาบอกเฉพาะชื่อเพราะลาวซึ่งปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ควบคุมการให้ข่าวอย่างเข้มงวด

ประเทศไทยรู้สึกได้เร็วสุดเรื่องยอดนักท่องเที่ยวจีนตก ตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า แต่ละเดือนมีนักท่องเที่ยวแดนมังกรเข้ามาเกือบ 1 ล้านคน แต่นับถึงเดือน ก.พ.จำนวนร่วงลง 90%

ที่สวนช้างสยาม พัทยา ขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่กี่ชั่วโมง นันทกร พัฒน์น้ำรอบ เจ้าของเกรงว่า เร็วๆ นี้เขาคงต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาค้ำจุนธุรกิจที่ขาดทุนไปเกือบ 1.95 ล้านบาทแล้วนับตั้งแต่ไวรัสระบาด

“คนไม่กล้ามาเที่ยว ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก ผมคงต้องไปกู้เงินแบงก์”

ส่วนฟาร์มจระเข้และสวนเสือ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังก็ร้างผู้คน ปล่อยให้เจ้าของต้องให้อาหารสัตว์ดังด้วยตนเองเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวมาช่วยให้อาหาร

ก่อนไวรัสโคโรน่าระบาดการท่องเที่ยวไทยก็เจอศึกหนักอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวตะวันตกต้องคิดหนักเรื่องมาไทยในช่วงฤดูท่องเที่ยวเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า

ดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเศรษฐกิจเผยว่า ปีนี้ไทยทำใจนักท่องเที่ยวลดลง 5 ล้านคน รายได้หาย 2.5 แสนล้านบาท

"ความหวังที่ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจ จะดีกว่าปี 2562 เหลือน้อยมาก เป็นไปได้ว่าปี 2563 อาจจะขยายตัวต่ำกว่า 2%”

158187272474

นี่อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ที่ทำงานในภาคการท่องเที่ยวอย่าง มา มยา วัย 22 ปี แม่ค้าขายของที่ระลึกในพัทยากล่าวว่า เร็วๆ นี้เธอคงกลับบ้านทางภาคเหนือ

“ขายของไม่ได้กำไรเลย ทุกอย่างแย่ไปหมด”

เอเอฟพีระบุด้วยว่า แม้ไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วมากที่สุดประเทศหนึ่งนอกจีนแผ่นดินใหญ่ที่ 34 คน แต่ทางการยังเสนอวีซ่าหน้าด่าน (วีโอเอ) ให้นักท่องเที่ยวจีน ผู้ติดเชื้อในไทยอย่างน้อย 2 คน ติดไวรัสหลังจากขับรถให้ผู้โดยสารชาวจีน จนเกิดความกังวลว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจมากกว่าจัดการกับวิกฤติสาธารณสุข

ด้านกัมพูชา ที่เป็นพันธมิตรรัฐบาลปักกิ่งอย่างชัดเจน มีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วเพียง 1 คน ทั้งๆ ที่มีชาวจีนเข้ามามาก นายกรัฐมนตรีฮุนเซนก็ไม่ได้กังวลเรื่องความเสี่ยงที่กัมพูชาต้องเผชิญ แต่การท่องเที่ยวของประเทศก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน

ยอดตั๋วเข้าชมนครวัดใน จ.เสียมราฐปีนี้ร่วงลง 30-40% ส่วนที่สีหนุวิลล์ เมื่อชายหาดทางภาคใต้โด่งดังเรื่องกาสิโนนักท่องเที่ยวลดจำนวนลง

“ผมเคยหาเงินได้วันละ 100 ดอลลาร์ ตอนนี้เหลือ 10 ดอลลาร์” จันทา รัก คนขับรถโดยสารเล่า ตอนนี้ภาคธุรกิจได้แต่สวดภาวนาให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวหากควบคุมไวรัสได้แล้ว

ส่วนไทยที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาปีละ 10 ล้านคนหวังว่า ความเสียหายจะบรรเทาลงภายใน 2-3 เดือน

จากผู้ให้บริการสู่มุมมองของนักท่องเที่ยวอย่างเยิ่น หรัน  วัย 25 ปีจากเฉิงตูที่มาเที่ยวไทยเป็นประจำ มาพัทยาโดยไม่สนคำเตือนเรื่องสุขภาพ

“ฉันก็กังวลเหมือนกันว่าประเทศอื่นจะมองพวกเราอย่างไร แต่ถ้ารักษาโรคได้แล้ว อะไรๆ คงดีขึ้น” นักท่องเที่ยวจีนกล่าว