ป.ป.ส. ชี้ผู้เสพยาคลั่ง อ้างเมา-เครียด ไม่ช่วยพ้นผิด

ป.ป.ส. ชี้ผู้เสพยาคลั่ง อ้างเมา-เครียด ไม่ช่วยพ้นผิด

ป.ป.ส. ชี้ผู้เสพยาเสพติดจนคลุ้มคลั่งแล้วก่อเหตุยิงปืน ไม่อาจอ้างความมึนเมาป็นข้อแก้ตัวให้พ้นจากความผิดได้

สืบเนื่องจากกรณีข่าว ชายมีอาการคลั่งและก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภายในบ้านตนเอง ย่านจุฬาซอย 10 ทำให้ประชาชนบริเวณใกล้เคียงตื่นตระหนกและเกรงจะได้รับอันตราย โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ กระทั่งชายดังกล่าวยอมมอบตัวและวางอาวุธ หลังสอบปากคำพบว่าชายดังกล่าวประสบกับปัญหาการประกอบธุรกิจแล้วเกิดความเครียดจึงเสพไอซ์เข้าไป

​นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่าการเสพยาเสพติดจนทำให้เกิดอาการทางจิตและไปก่อเหตุกระทำความผิด ในขณะที่ไม่สามารถรู้ผิดชอบหรือไม่สามารถบังคับตนเองได้เพราะมีจิตบกพร่อง โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือน จะอ้างว่ากระทำผิดไปเพราะความมึนเมาจากการเสพยาเสพติด เพื่อเป็นข้อแก้ตัวให้พ้นจากความผิดไม่ได้ จากนั้นเมื่อหายจากอาการทางจิตแล้วก็จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดที่ก่อนั้นต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ร่วมกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จัดวางระบบการตรวจสอบ และดูแลผู้เสพยาเสพติดที่มีอาการทางจิต เนื่องจากที่ผ่านมาปรากฏข่าวทางสื่อว่ามีผู้เสพยาเสพติดจนกระทั่งมีอาการทางจิตก่อเหตุต่างๆ ขึ้นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่ามีส่วนหนึ่งที่การก่อเหตุมาจากอาการทางจิตที่เป็นฤทธิ์ของยาเสพติด แต่หลายรายเป็นผู้มีอาการทางจิตที่ไม่รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง หรือไม่เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง หลายรายมีอาการเครียดจากปัญหาต่างๆ รุมเร้า และไม่ได้มีการใช้ยาเสพติด ซึ่งผู้ที่มีอาการทางจิตจะเหตุใดก็ตาม บุคคลใกล้ชิดมีส่วนสำคัญที่จะต้องช่วยกันดูแลเอาใจใส่และนำไปพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาการทางจิตควรทำตามข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพจิตของตนเองของกรมสุขภาพจิต

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่าขอความร่วมมือสื่อในการตรวจสอบความชัดเจนของข่าวก่อนนำเสนอ เพื่อไม่สร้างความตื่นตระหนกกับพี่น้องประชาชน ในทางกลับกันสื่อก็สามารถการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชนในการดูแลบุคคลในครอบครัวที่เป็นผู้ติดยาเสพติด รวมถึงผู้มีอาการทางจิตได้อย่างถูกต้อง แต่

อย่างไรก็ตามยาเสพติดยังคงมีโทษต่อสุขภาพร่างกาย และฤทธิ์ของมันก็ทำให้เกิดอาการทางจิตได้ ดังนั้น หากพบว่ามีสมาชิกในครอบครัวหรือผู้ที่รู้จักมีอาการทางจิตไม่ว่าจะด้วยเหตุใด สามารถขอคำแนะนำผ่านทางสายด่วนหมายเลข 1323 กรมสุขภาพจิต ได้ตลอด 24 ขั่วโมงโดยไม่เสียค่าใช้จ่า

การดำเนินการดังกล่าวเป็นการบูรณาร่วมกันของส่วนราชการเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแนวทางของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นผู้มีอาการทางจิตหรือคลุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติดและอาจไปก่อเหตุกระทำความผิด ตลอดจนพบเห็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง”