หุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทาง-ตลาดจับตา 'โควิด-19'

หุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทาง-ตลาดจับตา 'โควิด-19'

หุ้นวอลสตรีท ปิดตลาดวันศุกร์ (14ก.พ.)ไร้ทิศทาง โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดปรับตัวลงในกรอบแคบๆ สวนทางดัชนีเอสแอนด์พี500 และดัชนีแนสแด็กที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลง 25.23 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 29,398.08 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 6.22 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 3,380.16 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 19.21 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 9,731.18 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันจันทร์หน้า (17ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี ซึ่งดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ แม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเรียกร้องพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำการอุดช่องโหว่และจุดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งข้อเรียกร้องนี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อการเปิดเผยข้อมูลของรัฐบาลจีนเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (เอ็นเอชซี) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีนมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 121 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศอยู่ที่ 1,380 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อของจีนเพิ่มขึ้นอีก 5,090 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในจีนอยู่ที่ระดับ 63,851 ราย

เอ็นเอชซี ระบุว่า คณะกรรมการได้หักจำนวนผู้เสียชีวิต 108 รายออกจากตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ เนื่องจากมีการนับตัวเลขซ้ำซ้อนในมณฑลหูเป่ย และวันนี้ นับเป็นวันที่ 2 ที่การเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากมณฑลหูเป่ย์ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการรายงานตัวเลขทั่วประเทศของจีน และสร้างความไม่มั่นใจต่อต่างประเทศเกี่ยวกับการรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน

ขณะที่ราคาหุ้นบริษัทเอ็นวิเดีย คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 6% หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเอ็นวิเดีย เปิดเผยกำไรที่ระดับ 1.89 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 3.11 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.97 พันล้านดอลลาร์

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 100.9 ในเดือนก.พ. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.5 หลังจากแตะระดับ 99.8 ในเดือนม.ค.

ดัชนีความเชื่อมั่นดีดตัวขึ้น แม้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่ดัชนีได้แรงหนุนจากสถานะการเงินส่วนบุคคล และการคาดการณ์ต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจัยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เป็นสิ่งที่สร้างความวิตกต่อผู้บริโภคมากนัก โดยมีเพียง 7% ที่ระบุถึงปัจจัยดังกล่าว

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล

'สถานการณ์ไวรัสโคโรน่า'