จับตาแถลง 'จีดีพี 62' กดดันตลาดเงิน-หุ้น 

จับตาแถลง 'จีดีพี 62' กดดันตลาดเงิน-หุ้น 

สัปดาห์นี้ ในช่วงต้นสัปดาห์เงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ก่อนที่แข็งค่าขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ปัจจัยหนุนจากรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนม.ค.

ซึ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯยังแข็งแกร่งต่อเนื่องและจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในส่วนของโคโรนาไวรัสนั้นในช่วงต้นสัปดาห์ นักลงทุนค่อนข้างมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากว่าทางการจีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่ตัวเลขการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังเพิ่มสูงมากต่อเนื่องในช่วงกลางสัปดาห์ ส่งผลให้เงินหยวนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 สำหรับในช่วง 1 สัปดาห์ข้างหน้า "ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย" คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.90-31.40 บาทต่อดอลลาร์ โดยยังต้องจับตาสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสต่อไป เนื่องจากผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจของจีนและประเทศอื่นๆค่อนข้างรุนแรง โดยในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.จะมีการรายงานตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปี2562 ซึ่งในช่วงดังกล่าวยังไม่มีผลกระทบจากโคโรนาไวรัส

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้( 14ก.พ.)ปิดการซื้อขายที่1,526.30จุดลดลง 6.47จุดหรือ-0.42% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย61,837.84ล้านบาท  "บล.เอเซีย พลัส"ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า ดัชนีฯมีโอกาสเคลื่อนไหวไม่มากนัก  เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมยังคงอยู่ที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และการประกาศตัวเลขGDPปี2562ของไทย ประกอบกับทิศทางฟันด์โฟลว์ต่างชาติยังไม่มีสัญญาณไหลเข้ามาเพิ่มเติม จึงทำให้ไม่มีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อตลาดมากนัก ทั้งนี้ ประเมินกรอบดัชนีฯไว้ที่ระดับ1,520-1,550จุด

ด้านความเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่1,575.72ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาทองคำในประเทศอยู่ที่23,250บาทต่อบาททองคำ  “วายแอลจีบูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล ”  ระบุ หากราคาทองคําดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านระดับ 1,582ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจจับตาว่าจะผ่านได้หรือไม่ หากไม่ผ่านอาจได้เห็นการตัวลงทดสอบแนวรับ1,565-1,558ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ ยังคงเน้นการซื้อขายจากการแกว่งตัวในกรอบราคาดังกล่าวเพื่อทํากําไรระยะสั้น