Sideways

Sideways

เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลาง และคาดดัชนีฯ Sideways แนวรับ 1522 / 1516 จุด แนวต้าน 1542 / 1548 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) การวิตกต่อตัวเลขจานวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯ เฉพาะในมณฑลหูเป่ยที่เพิ่มขึ้นถึง 14,840 ราย เป็น 48,206 ราย โดย WHO ชี้แจงว่าเป็นผลจากปลี่ยนเกณฑ์ให้นับรวมผู้ติดเชื้อที่ได้รับการวินิจฉัยทางคลินิกด้วย 2) สภาผู้แทนฯ โหวตผ่านร่างงบประมาณปี 2020 แล้ว ก่อนส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา คาดเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นไป 3) สัญญาณเทคนิคอยู่ระหว่างการเลือกว่า จะเป็นทิศทางขาขึ้นไปที่ 1567 จุด (หากดัชนีฯ ทะลุผ่าน 1542 จุด) หรือขาลงไปที่ 1495 จุด (หากดัชนีฯ ร่วงหลุด 1522 จุด)

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-ยอดค้าปลีก, Industrial Production / รายงาน 4Q19E GDP ครั้งที่สองของ EU, Germany

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

- ตลาดหุ้นไทยร่วง: ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงตลอดการซื้อขาย โดยลงไปต่ำสุดที่ 1530.44 จุด -9.40 จุด ก่อนมาปิดที่ 1532.77 จุด -7.07 จุด -0.46% วอลุ่ม 4.64 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำลง ปิโตรเคมี -1.68% โรงพยาบาล -1.05% พลังงาน -1.03% ส่วนกลุ่มปรับขึ้น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.09% ไฟแนนซ์ +1.2%

- ตลาดหุ้นโลกปิดลบ: การวิตกต่อจานวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ที่พุ่งขึ้นมาก เป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นโลก DJ -0.43% S&P500 -0.16% Nasdaq -0.14% DAX -0.03% FTSE -1.09%

+ น้ำมันดิบและทองปิดบวกเป็นวันที่ 2: น้ำมันดิบปิดบวกเป็นวันที่สอง เพื่อรอลุ้นการลดกำลังการผลิตรอบใหม่ของโอเปค WTI +USD0.25 ปิดที่ USD51.42/บาร์เรล Brent +USD0.55 ปิดที่ USD56.34/บาร์เรล และทองคำ +USD7.20 ปิดที่ USD1,578.80/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Coronavirus Update: WHO รายงานว่าวันที่ 13 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 46,997 ราย (+1,826 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 1,369 ราย (วานนี้ +254 ราย) โดยเป็นผู้ติดเชื้อในจีน (รวมมาเก๊า HK ไต้หวัน) 46,550 ราย (+1820 รายใหม่) เสียชีวิต 1368 ราย (วานนี้ +254ราย) และเป็นผู้ติดเชื้อนอกจีน 447 ราย (+6 รายใหม่) ใน 24 ประเทศ โดยสิงคโปร์ สูงสุด 50 ราย (+3 รายใหม่) ไทย 33 ราย ญี่ปุ่น 29 ราย แต่ไม่รวมผู้ติดเชื้อที่อยู่บนเรือ 174 ราย เกาหลีใต้ 28 ราย ขณะที่ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มวานนี้ ได้แก่ USA 14 ราย (+1) UK 9 (+1) เวียดนาม 16 (+1)

- Japan: พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสฯ คนแรก เป็นสาวญี่ปุ่น อายุ 80 ปี ติดเชื้อตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. แม้ว่าไม่เคยไปเมืองอู่ฮั่นมาก่อน

- HK: ขยายเวลาปิดโรงเรียนไปจนถึงวันที่ 16 มี.ค. จากเดิมวันที่ 2 มี.ค. และให้เจ้าหน้าที่รัฐฯ ทางานที่บ้านต่ออีก 1 สัปดาห์

+/- Earnings Results: คาด TOP รายงานกำไร 4Q19E 1,715 ล้านบาท +135.6% YoY TASCO กำไร 643 ล้านบาท +383.5% BTS 1,069 ล้านบาท -10.1% YoY RS 189 ล้านบาท +39.6% YoY SAT 219 ล้านบาท -14% YoY ส่วนวานนี้ LPN 4Q19 กำไรตามคาด 614 ล้านบาท

+ METCO 1Q20 กำไร 34.5 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุน 23.7 ล้านบาท ใน 1Q19) +AIT กำไรปี 2019 สูงขึ้น 65.5% YoY เป็น 392  ล้านบาท –BCT กำไร 3Q19 แย่ลง 62% YoY เป็น 198.08 ล้านบาท

+ Dividend Play: SPVI (ปันผล 0.10 บาท XD 27 ก.พ.) IMPACT (0.30 บาท XD 27 ก.พ.) LPN (ปันผลงวด 2H19 ที่ 0.40 บาท XD 26 ก.พ.)

- UK: รมว.คลัง นายซาจิด จาวิด ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่มีกาหนดต้องยื่นงบประมาณเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในเดือนหน้า

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: 4Q19E GDP growth ครั้งที่สองของอียู (คาด +0.1% QoQ Vs 3Q19 +0.3% QoQ) เยอรมนี (คาด +0.1% QoQ เท่ากับ 3Q19) USA ยอดค้าปลีก เดือน ม.ค. คาดเท่าเดิม +0.3% MoM Industrial Production เดือน ม.ค. คาด -0.2% MoM (Vs เดือน ธ.ค.-0.3% MoM) ส่วนวานนี้ จีนรายงานยอดขายรถยนต์ เดือน ม.ค. -18% YoY เป็น 1.941 ล้านคัน และปริมาณผลิตรถยนต์ -24.6% YoY เป็น 1.783 ล้านคัน

- USA: CPI เดือน ม.ค. +0.1% MoM (Vs คาด +0.2% MoM, เดือน ธ.ค. +0.2% MoM) จากการเพิ่มขึ้นของหมวดอาหาร ส่วนเทียบรายปี +2.5% YoY สูงสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 2018 (Vs เดือน ธ.ค. +2.3% YoY)

กลยุทธ์: เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: BGRIM JASIF STEC

หุ้นโมเมนตัมบวก: KCE BAM OSP KTC DTAC PTG RBF AMANAH LPN ALT ZEN JKN

หุ้นโมเมนตัมลบ: BH HANA OTO CAZ

Derivatives: แนะถือสถานะ Long GOH20 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)