'ทรัมป์' เตรียมเยือนอินเดียทำข้อตกลงการค้า

หลังจากคณะทำงานด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับอินเดียหารือกันมาหลายรอบ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ มีกำหนดไปเยือนอินเดียระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ นางอลิสซา แอร์ส นักวิชาการอาวุโส สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เผยกับเว็บไซต์ซีเอ็นบีซีว่า จุดหมายสำคัญของการเยือนอยู่ที่ข้อตกลงการค้า

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า ข้อตกลงการค้าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับผลการเยือนอินเดียของนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าของสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ในสัปดาห์นี้

นายอาคิล เบอรี นักวิเคราะห์จากยูเรเชีย กล่าวว่า เรื่องที่จะหารือกันมีทั้งกลาโหม พลังงาน เครื่องมือแพทย์ และเกษตรกรรม

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) ว่า อินเดียเตรียมการซื้อเฮลิคอปเตอร์ทหารจากบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน มูลค่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ก่อนการเยือนของทรัมป์ นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้รับเลือกตั้ง อินเดียซื้ออาวุธสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอบแทนการซื้อเฮลิคอปเตอร์ซีฮอว์ค 24 ลำ นายโจนาห์ แบลงค์จากแรนด์คอร์ป คาดว่า สหรัฐอาจยกเลิกภาษีสินค้าราว 2,000 รายการ ที่สหรัฐเก็บภาษีเมื่อปีก่อนให้กับอินเดีย

ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับอินเดียระอุขึ้นหลังรัฐบาลวอชิงตันยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของอินเดียเมื่อเดือน พ.ค.2562 สถานะนี้ช่วยให้อินเดียส่งออกสินค้าโดยไม่ถูกเก็บภาษีได้มากถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์

ด้านรัฐบาลนิวเดลีตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ 28 รายการ รวมทั้งแอ๊ปเปิ้ลและอัลมอนด์ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองระเทศกลับมาดีขึ้นเมื่อนายโมดีเยือนสหรัฐช่วงปลายเดือน ก.ย.2562 ผู้นำทั้งสองสวมกอดกันในงาน“ฮาวดี้ โมดี” ที่เอ็นอาร์จีสเตเดียมในเมืองฮุสตัน ที่มีชาวอเมริกันเชื้อสายอินเดียเข้าร่วมราว 50,000 คน

ก่อนหน้านี้สหรัฐทำข้อตกลงการค้าเฟส1 กับจีนไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองหลายคนกล่าวว่า นายทรัมป์ต้องการทำข้อตกลงกับอินเดียด้วย ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี

เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งในรัฐบาลอินเดียเผยกับซีเอ็นบีซีว่า นายโมดีเองก็หวังใช้การเยือนของผู้นำสหรัฐบ่งบอกถึงชัยชนะทางการเมืองในช่วงที่ตนเผชิญแรงกดดันภายในประเทศ

“ชาวอินเดียดูเหมือนค่อนข้างเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีโอกาสชนะเลือกตั้งสูงมาก ผมใช้เวลา 4 สัปดาห์ในอินเดียไปนู่นมานี่ทั่วประเทศ ไม่มีใครมองว่าการเยือนครั้งนี้เป็นการเยือนของรัฐบาลเป็ดง่อยที่ไม่มีอำนาจเลย” นายริค รอสโซว์ จากศูนย์ยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษากล่าว