'สุรงค์' ปัดปมลาออก 'ผู้บริหาร กทพ.' ไม่เกี่ยวลงนามขยายสัญญาบีอีเอ็ม

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.63  นายสุรงค์ บูลกุล ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เปิดเผยว่า กรณีที่นายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน กทพ.ได้ยื่นทำหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งใน กทพ.หลังจากคณะกรรมการ(บอร์ด) กทพ.มีมติแต่งตั้งให้รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กทพ. เพียง 20 วันนั้นตนได้ยับยั้งแล้ว และรู้สึกเสียดายอยากให้อยู่ทำงานต่อ แต่นายวิชาญยืนยันขอลาออก เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพจากโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน

"เรื่องปัญหาสุขภาพนี้ ท่านรองได้มาหารือกับผมหลายเดือนแล้ว และเมื่อครั้งที่บอร์ดแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่านั้น รองวิชาญเองก็ปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่พร้อมที่จะรับหน้าที่นี้เพราะคงทำไม่ไหว แต่ด้วยระเบียบข้อบังคับตาม พ.ร.บ.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย จึงไม่สามารถที่จะทำตามคำขอของนายวิชาญได้ เพราะมีข้อกำหนดระบุว่า การแต่งตั้งรักษาการผู้ว่าการ กทพ.ต้องแต่งตั้งผู้บริหารที่มีอาวุโสสูงสุดเท่านั้น ซึ่ง คือนายวิชาญ และบอร์ดก็ต้องปฏิบัติตาม"

สำหรับการยื่นหนังสือลาออกของนายวิชาญครั้งนี้ จะมีการเสนอเป็นวาระการพิจารณาของบอร์ด กทพ.ในการประชุมวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพื่ออนุมัติ จึงจะมีผลสมบูรณ์ และบอร์ด กทพ.ก็จะต้องแต่งตั้งผู้บริหารที่มีอาวุโสสูงสุดลำดับถัดไปขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้ว่าการ กทพ.แทน

ส่วนกระแสข่าวที่ว่าการลาออกของผู้บริหารทั้งสองคนในเวลาใกล้กัน เกี่ยวข้องกับการที่ต้องเป็นผู้ลงนามในสัญญาขยายสัมปทานใหม่ตามข้อตกลงยุติข้อพิพาททั้งหมดระหว่าง กทพ. และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีเอ็ม) ที่ให้มีการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนสูงสุดอยู่ที่ 15 ปี 8 เดือน หรือไม่ นายสุรงค์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะทั้งสองคนยืนยันว่ามีปัญหาสุขภาพจริงๆ และการลงนามในสัญญาก็ยังไม่ถึงเวลา เพราะเรื่องยุติข้อพิพาทดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และคงต้องรอความชัดเจนก่อน

ส่วนกรณีที่จะมอบอำนาจให้ประธานบอร์ดเป็นผู้ลงนามสัญญาระหว่าง กทพ.และบีอีเอ็ม แทนผู้ว่า กทพ.นั้น เรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากระเบียบข้อบังคับของ กทพ.ประธานบอร์ดไม่มีสิทธิลงนามในสัญญาสัมปทาน เนื่องจากไม่ได้เป็นพนักงานของ กทพ. ดังนั้นผู้ที่มีอำนาจ ต้องเป็นผู้ว่าการ กทพ.หรือรักษาการผู้ว่าการ กทพ.เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันรองผู้ว่าการ กทพ. ที่อาวุโสสูงสุด และมีความเป็นไปได้ที่จะแต่งตั้งให้มารับตำแหน่งรักษาการผู้ว่าการ กทพ. คือ นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กทพ.ซึ่งภารกิจสำคัญที่นายดำเกิง จะต้องดำเนินการ คือการลงนามสัญญาขยายสัมปทานเพื่อยุติข้อพิพาทระหว่าง กทพ.และบีอีเอ็ม โดยเป้าหมายของกระทรวงคมนาคม ต้องการให้ลงนามสัญญาดังกล่าวภายในเดือน ก.พ.นี้ เพื่อให้สัญญาสัมปทานบริหารทางด่วน มีความต่อเนื่องกับสัญญาเดิมที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 29 ก.พ.2563