ขึ้นต่อ

ขึ้นต่อ

เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เราคงมุมมองเชิงบวกและคาดดัชนีฯ ขึ้นต่อ แนวรับ 1532 / 1522 จุด แนวต้าน 1548 / 1555 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน เผยจานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่าสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ทาให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัส Covid-19 2) ประธานเฟดส่งสัญญาณใช้วิธีทา QE หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบใหม่ และวิตกต่อปัญหาหนี้สินของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นเหนือ USD23Trn 3) คาดสภาฯ โหวตผ่านร่างงบประมาณปี 2020 วาระ 2-3 วันนี้ และเริ่มเบิกจ่ายได้ตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นไป 4) บจ.ทยอยประกาศปันผล IRPC (0.1 บาท) VGI (0.045 บาท) PLANB (0.0618 บาท) SF (0.22 บาท) ROH (1.4346 บาท) PT (0.4 บาท) MBKET (0.18 บาท) หนุนราคาหุ้นระยะสั้น

ประเด็นสำคัญวันนี้: ไทย-สภาฯ ประชุมงบประมาณปี 2020 USA-เงินเฟ้อเดือน ม.ค. คาด +0.2% MoM Earnings-CSFB, Barclays, Alibaba

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว: การแรลลี่ของตลาดหุ้นโลก ส่งผลให้ดัชนีฯ พุ่งขึ้น ตั้งแต่เปิดตลาด 5.22 จุด และปรับขึ้นตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดที่ 1539.84 จุด +15.91 จุด +1.04% วอลุ่ม 5.43 หมื่นล้านบาท กลุ่มนำขึ้น คือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.4% ปิโตรฯ +2.36% ไฟแนนซ์ +1.73% มีเดีย +1.55%

+ ตลาดหุ้นโลกปิดบวก: การคลายวิตกต่อการระบาดของไวรัสฯ และสุนทรพจน์ของประธานเฟด ที่คงนโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโลก DJ +0.94% S&P500 +0.65% Nasdaq +0.9% DAX +0.89% FTSE +0.47%

+ น้ำมันดิบและทองปิดบวก: น้ำมันดิบปิดบวก แม้สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ก่อน สูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรล Vs คาด 2.3 ล้านบาร์เรล จากลุ้นผลประชุมโอเปคกับรัสเซีย WTI +USD1.23 ปิดที่ USD51.17/บาร์เรล Brent +USD1.78 ปิดที่ USD55.79/บาร์เรล และทองคำ +USD1.50 ปิดที่ USD1,571.60/ออนซ์ จากสัญญาณทำ QE ของเฟด

ประเด็นสำคัญ

- Coronavirus Update: WHO รายงานว่าในวันที่ 12 ก.พ. พบผู้ติดเชื้อทั่วโลก 45,171 ราย (+2,068 รายใหม่) ผู้เสียชีวิต 1,115 ราย (วานนี้ +97 ราย) โดยเป็นผู้ติดเชื้อในจีน(รวมมาเก๊า HK ไต้หวัน) 44,730 ราย (+2,022 รายใหม่) เสียชีวิต 1114 ราย (วานนี้ +97 ราย) และเป็นผู้ติดเชื้อนอกจีน 441 ราย (+46 รายใหม่) ใน 24 ประเทศ โดยสิงคโปร์ สูงสุด 47 ราย (+2 รายใหม่) ไทย 33 ราย ญี่ปุ่น 28 ราย (+2 รายใหม่) แต่ไม่รวมผู้ติดเชื้อที่อยู่บนเรือ 175 ราย เกาหลีใต้ 28 ราย

+/- MSCI: มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.พ. พบว่าไทยไม่มีหุ้นถูกเข้าหรือถอดออกจากการคานวณ โดย 1) Global Standard Index มีหุ้นเพิ่ม 7 บริษัท (จีน 6 มาเลเซีย 2) Global Small Cap Index มีหุ้นเพิ่ม 3 บริษัท (จีน 2 มาเลเซีย 1) และถูกถอดออก 7 บริษัท(จีน 2 มาเลเซีย 2 ฟิลิปปินส์ 1 ฮ่องกง 1 เม็กซิโก 1)

+/- Earnings Results: วานนี้ AOT รายงาน 1Q20 กำไร 7.33 พันล้านบาท ดีกว่าคาด 12.5%, VGI 3Q20 กาไร 400.62 ล้านบาท ดีกว่าคาด 7% YoY ปันผล 4.5 สตางค์ XD 25 ก.พ. แต่อนุญาโตตุลาการมีมติ 2 ต่อ 1 เสียง ให้ชำระค่าเสียหาย 579.4 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ย7.5% ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 2018 ให้แก่ บ.ไมดาสฯ, IRPC 4Q19 ขาดทุน 513 ล้านบาท แย่กว่าคาด -48% YoY (คาด –345 ล้านบาท), GPSC 4Q19 กำไร 1.14 พันล้านบาท แย่กว่าคาด -29% YoY ส่วน KYE กำไร 3Q19 เพิ่มขึ้น 286% YoY เป็น 155.71 ล้านบาท, SSC กำไร 1Q20 พลิกมาเป็นกำไร 72.98 ล้านบาท (จากขาดทุน -100.44 ล้านบาท)

+ ไทย: คาดสภาผู้แทนฯ โหวตผ่านร่างวาระ 2-3 งบประมาณปี 2020 วันนี้ หลังจากพรรคเพื่อไทยมีมติไม่ออกเสียง และส่งต่อให้วุฒิสภา เพื่อพิจารณาและอนุมัติต่อไป

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: คาด USA รายงานเงินเฟ้อเดือน ม.ค. +0.2% MoM (Vs เดือน ธ.ค. +0.2%) Core Inflation เดือน ม.ค. +0.2% MoM (Vs เดือน ธ.ค. +0.1%)

+ Oil: โอเปคปรับลดคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบปีนี้ลงจากเดิม 0.23 ล้านบาร์เรล เป็นเพิ่มขึ้นเพียง 0.99 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+/- ICT: กสทช. ประกาศผ่านคุณสมบัติประมูลคลื่นวันที่ 16 ก.พ. นี้ TRUE และ AIS รวม 3 คลื่น (700MHz 2600MHz 26GHs) DTAC 1 คลื่น (26GHz)

กลยุทธ์: เก็งกำไรเมื่อราคาอ่อนตัว โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: BGRIM JASIF STEC

หุ้นโมเมนตัมบวก: KCE EA IVL PLANB BEAUTY BCPG CHG GL ESSO PSL DOD MCS KSL BFIT STARK

หุ้นโมเมนตัมลบ: DTAC EPG OTO GFPT

Derivatives: แนะปิด Short ออกไปก่อนและหาจังหวะเปิด Long เก็งกำไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)