‘สถาบันนิติฯ-ราชทัณฑ์’ เก็บฐานข้อมูล DNA นักโทษ

‘สถาบันนิติฯ-ราชทัณฑ์’ เก็บฐานข้อมูล DNA นักโทษ

สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงในความร่วมมือการจัดทำระบบฐานข้อมูลนิติวิทยาศาสตร์ ผู้กระทำความผิด/ผู้ต้องขัง เพื่อป้องปรามการกระทำผิดซ้ำ

เมื่อวันที่ 13 ก.พ.63 พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และกรมราชทัณฑ์ โดยมีพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมลงนามความร่วมมือการจัดทำระบบฐานข้อมูลผู้กระทำความผิดโดยเฉพาะผู้ต้องขัง

พ.ต.อ.ดุษฎี กล่าวว่า การทำบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการติดตามตัวผู้ต้องขังที่พ้นโทษไปแล้ว ที่ผ่านมาสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีหน้าที่เก็บข้อมูลสารพันธุกรรม แต่ยังไม่เคยมีการจัดระบบหรือเข้าไปเก็บข้อมูลผู้ต้องขังที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศ การทำบันทึกข้อตกลงจะทำให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และกรมราชทัณฑ์มีฐานข้อมูลร่วมกัน และยังช่วยในการป้องปรามการกระทำความผิดซ้ำของผู้ที่พ้นโทษออกไป ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เคยทำบันทึกข้อตกลงกับกรมราชทัณฑ์เพื่อเก็บข้อมูลผู้ต้องขังในเรือนจำ เพื่อใช้ในการสืบสวนติดตามพฤติกรรมคนร้าย

ซึ่งข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์ระบุว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาผู้ต้องหาที่พ้นโทษไปแล้วกระทำความผิดซ้ำมีตัวเลขเพิ่มขึ้นจาก 7% เพิ่มเป็น 25% และล่าสุดปี 2563 เพิ่มเป็น 30% จึงต้องจำแนกผู้ต้องขังที่กระทำผิดซ้ำในคดีต่างๆ เช่น ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ความผิดเกี่ยวกับเพศ ความผิดทางด้านความมั่นคง และความผิดต่อชีวิต โดยผู้ต้องขังกลุ่มนี้ต้องดำเนินการเก็บสารพันธุกรรม เพื่อง่ายต่อการตรวจพิสูจน์กรณีกระทำความผิดซ้ำ และสามารถนำไปใช้ในการตรวจเปรียบเทียบสารพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับคดีต่างๆ เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวด้วยว่า การเก็บสารพันธุกรรมไม่ควรทำเฉพาะในเรือนจำเท่านั้น แต่ควรดำเนินการครอบคลุมไปถึงกรมคุมประพฤติ และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เนื่องจากหน่วยงานดังกล่าวมีหน้าที่รับช่วงดูแลผู้กระทำผิดที่ศาลสั่งลงโทษ ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ในการจัดทำระบบฐานข้อมูล และทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของฐานข้อมูลประสานกับหน่วยงานอื่นง่ายขึ้น

ด้านพ...วรรณพงษ์ กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย และความรู้ทางนิติวิทยาศาสตร์มาใช้เพื่อเร่งรัดการดำเนินคดีทุกขั้นตอน ให้รวดเร็ว เกิดความเป็นธรรม และมีระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกันสามารถใช้ติดตามผลและนำไปใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพของหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมได้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลซึ่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และกรมราชทัณฑ์ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการจัดทำระบบฐานข้อมูลผู้กระทำความผิด/ผู้ต้องขัง การใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ร่วมกัน เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงานในการจัดทำระบบฐานข้อมูลและการเชื่อมโยงข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์ของผู้กระทำความผิดและผู้ต้องขังให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์จากข้อมูลด้านนิติวิทยาศาสตร์กรณีที่มีการกระทำความผิดซ้ำได้ ซึ่งเป็นมาตรการในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมและความผาสุกของประชาชน

...ณรัชต์ กล่าวว่า การเก็บสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอของผู้ต้องขัง เพื่อจัดทำระบบฐานข้อมูลบุคคลของผู้กระทำผิดและผู้ต้องขังจะต้องได้รับความยินยอมของผู้ต้องขัง ซึ่งระบบฐานข้อมูลดังกล่าวจะเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันและลดการกระทำผิดซ้ำอย่างเป็นระบบ