จ่อดำเนินคดี “ปารีณา” รุกป่าเพิ่ม หลังกฤษฎีกาตีความ ฟาร์มไก่อยู่ในป่าสงวนฯ

จ่อดำเนินคดี “ปารีณา” รุกป่าเพิ่ม หลังกฤษฎีกาตีความ ฟาร์มไก่อยู่ในป่าสงวนฯ

คณะเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบที่กิน ไร้เงา “ปารีณา” นำชี้แนวเขต

โดย พ...วัชรินทร์  พูสิทธิ์  รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้ง นายวีระสมความคิด  เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรับชั่น ผู้แจ้งความ และคณะของกรมป่าไม้ นำโดยนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (อุดรธานี) ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบที่ดินฯ ของกรมป่าไม้ และนายชีวะภาพ  ชีวะธรรม  ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่ตรวจสอบเขาสนฟาร์ม  ซึ่งตั้งอยู่หมู่.รางบัว  .จอมบึง  .ราชบุรี  ซึ่งเป็นของ ส.ส. ปารีณา  ไกรคุปต์  ผ่านหมายตรวจค้นจากศาล หลังจากที่นายวีระได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ ส.ส ปารีณาเอาไว้ ในข้อหาบุกรุกป่าเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดยพ...วัชรินทร์  ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน บก.ปทส. บอกว่า  การตรวจสอบในวันนี้ของทางตำรวจ เป็นการตรวจสอบในพื้นที่อ้างว่าเป็นสปก. แต่เนื่องกฤษฎีกาตีความแล้วว่า พื้นที่ที่เป็น สปก.ก็ยังคงเป็นพื้นที่ป่า จึงต้องมาตรวจสอบพื้นที่ให้แน่ชัด  รวมทั้งตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อจะคำนวณค่าเสียหายในการส่งศาลพิจารณา เพราะมีการกล่าวโทษและจะต้องมีค่าเสียหายที่จะต้องชดใช้  โดยให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เป็นผู้นำชี้พื้นที่ทั้งหมด  

ทั้งนี้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งหนังสือแจ้งไปยัง ส.ส. ปารีณาให้มานำชี้แล้วถึงสองครั้ง แต่ไม่ได้มีคำตอบอะไรกลับมา    ส่วนการตรวจสอบพื้นที่นั้น พ...วัชรินทร์กล่าวว่า คงจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ 

ทางด้านคณะของกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ เปิดเผยว่า   หากพบว่า การตรวจสอบวันนี้ มีการทับซ้อนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หรือป่าไม้ 2484 นั้น จะดำเนินการแจ้งความใหม่ หรืออาจจะแจ้งเพิ่มเติมจาก 46 ไร่ ที่กรมป่าไม้เคยแจ้งไปแล้วในพื้นที่ที่พบว่ามีการบุกรุกป่าอย่างชัดเจน ซึ่งในการตรวจสอบพื้นที่ผืนใหญ่วันนี้ ต้องดูรายละเอียดการครอบครอง ต้องดูให้ได้ก่อนว่าใครเป็นผู้ครอบครอง และมีพื้นที่เท่าไหร่ เนื่องจากจำนวนพื้นที่ตอนแรกคำนวณจากภาพถ่ายทางอากาศ แต่จะมีข้อมูลอยู่ระดับหนึ่งแล้ว 

นายชีวะภาพกล่าวว่า ช่วงเวลาที่กรมป่าไม้รอคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา ก็ได้เดินหน้าตรวจสอบข้อมูลอยู่ และรู้แล้วว่าเป็นของใคร ส่วนการแจ้งความก็ต้องระบุให้ชัดว่าเป็นพื้นที่จำนวนเท่าไหร่ เอาเท่าที่พิสูจน์ได้ว่ามีการครอบครองแค่ไหน และใครเป็นผู้ครอบครอง นอกจากเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว ก็ยังมีเรื่องการแจ้งครอบครอง มีเลขที่บ้าน ไฟฟ้ามีการเก็บรายละเอียดไว้แล้ว 

“ทางอธิบดีกรมป่าไม้ได้บอกมาว่า วันนี้ถ้าพบว่าเป็นการกระทำผิดชัดเจน ก็เอาให้จบวันนี้ ให้สิ้นกระแส ต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ด้วยเพราะก่อนจะทำอะไรต้องละเอียดอ่อน เพราะที่นี่ทางเจ้าหน้าที่โดนฟ้องไปแล้ว 1 คดี หากทำอะไรที่ไม่รัดกุมคงไม่ได้ จะต้องทำเป็นรูปแบบ โดยชุดพยัคฆ์ไพรเป็นชุดที่บังคับใช้กฎหมาย จะรอฟังจากฝ่ายกฎหมายสรุปมาว่า ตรวจสอบได้  ถ้าซ้อนทับป่าสงวน ป่าไม้ 2484 ก็ดำเนินคดีได้เลย วันนี้ได้รับคำตอบแล้วว่า มันยังคงเป็นป่าตามกฎหมาย บุกรุกเท่าไหร่ก็ต้องแจ้งความเท่านั้น” นายชีวะภาพกล่าว