ภาพรวมอัพไซด์ตลาดยังจำกัด  เลือกเก็งกำไรรายตัวรับเหมา พลังงานทดแทน

ภาพรวมอัพไซด์ตลาดยังจำกัด  เลือกเก็งกำไรรายตัวรับเหมา พลังงานทดแทน

ตลาดมองเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยเพิ่ม

ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวล แถลงสภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีโดยมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และความเสี่ยงขาลงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดลงในช่วงปลายปีก่อน ขณะที่จับตาความเสี่ยงของไวรัสโคโรนาต่อเศรษฐกิจและเศรษฐกิจโลก ซึ่งแม้จะไม่ได้มีการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย แต่ตลาดเงินประเมินเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วงก.ย.63 ซึ่งโอกาสลดดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ช่วยปิด หรือลดความเสี่ยงในภาพรวม

ตลาดเริ่มจับตาผลกระทบของไวรัสโคโรนาใกล้ชิด องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศตั้งชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Covid-19 (ย่อมาจาก "coronavirus disease starting in 2019") โดยผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 จะมาประชุมกัน 22-23 ก.พ.ที่ซาอุดิอาระเบีย เพื่อหารือมาตรการยับยั้งความเสี่ยงจากไวรัสโคโรนาที่มีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกนับจากวิกฤติโรคซาร์เป็นต้นมา

ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าภูมิภาคจากแนวโน้มการปรับประมาณการลง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เดินหน้าแข็งแกร่งเนื่องจากการรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด โดยบจ. S&P รายงานกำไรดีกว่าคาดราว 5.53% (344/500 บริษัท) ขณะที่บจ.ใน NASDAQ รายงานกำไรดีกว่าคาดราว 9.96% (67/100 บริษัท) ขณะที่บจ.ใน SET Index รายงานกำไรแย่กว่าคาด 9.33% (47/574 บริษัท) ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความเสี่ยงจากการหายไปของนักท่องเที่ยวจีน, การส่งออกไปจีนที่ชะลอ, ภัยแล้ง เป็นต้น ทำให้หุ้นไทยมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรลงหลังการรายงานผลประกอบการ

กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและพลังงานทดแทนน่าสนใจ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 เข้าสภาฯ 13 ก.พ. ทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณคาดจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่มี.ค.เป็นต้นไป เป็นบวกต่อกลุ่มที่ได้รับงบลงทุนภาครัฐ อาทิ รับเหมาก่อสร้าง ขณะที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ยังอาจมี downside ช่วงสั้นจากภัยแล้งที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการซื้อที่ดินเพื่อประเมินสถานการณ์และการแก้ปัญหาของภาครัฐ แต่เรามองเป็นโอกาสทยอยสะสมที่ดี โดยเฉพาะ WHA ที่จะมีใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (WHA-W1) หมดอายุ 5 มี.ค.63 นี้ ช่วงสั้นเรามองความกังวลผลประกอบการจะทำให้หุ้นในกุ่ลรายได้มั่นคงที่ราคาไม่แพง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าที่ไม่ใช่ตัวหลัก รวมถึงพลังงานทดแทน มีโอกาสเป็นเป้าหมายการลงทุน อาทิ BPP, SPP, GUNKUL

ภาพรวมกลยุทธ์ กรอบเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1527-1548 จุด โดยความเคลื่อนไหวอาจผันผวนจากการรายงานผลประกอบการและการปรับประมาณการทางเศรษฐกิจลงที่จะทยอยเกิดขึ้น // หุ้นแนะนำวันนี้ STEC, ADVANC* /เก็งกำไร BPP* (เป้า 16.50 ตัดขาดทุน 15.40), SSP* (เป้า 8.00 ตัดขาดทุน 7.10)

แนวรับ 1518 จุด / แนวต้าน : 1548 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%.

ประเด็นการลงทุน

จีนคาด โคโรน่า หยุดระบาดเดือน เม.ย. – ผู้เชี่ยวชาญจีนคาด โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หยุดระบาดเดือน เม.ย. นี้ หลังจากความรุนแรงของการระบาดจะสูงที่สุดในเดือน ก.พ.

ความเชื่อมั่นนักลงทุนวูบ 9.91% – สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้า ปรับลดลง 9.91% ซบเซาเป็นเดือนแรกในรอบ 4 ปี หลังนักลงทุนกังวลสถานการณ์ท่องเที่ยว-ความขัดแย้งระหว่างประเทศ

กลุ่มธนาคาร – ปรับตัวลดลงจากความกังวลธปท.จะเข้ามารื้อการคิดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมโดยเฉพาะกับธุรกิจ SME ประกอบกับการปรับลดอดอกเบี้ยนโยบายและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ADVANC อนุญาโตตุลาการยกฟ้อง 1.62 หมื่นล้านบาท กรณีทีโอทีเรียกร้องค่าเสียหายการให้บริการเครือข่ายร่วม (roaming) อย่างไรก็ตามคาดทีโอทีจะไม่รับ และเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนคำชี้ขาด ก่อนยื่นเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งน่าจะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่จะทราบผล

ค่าระวางเรือ – ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) อยู่ที่ 418 เปลี่ยนแปลง +7 หรือ +1.70%

ประเด็นติดตาม: 12.พ. – OPEC monthly report / ประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์, 13.พ. – เงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค., 14.พ. – EU GDP 4Q19

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)