'กองทุน' แนะทยอยช้อน 'หุ้นไทย'

'กองทุน' แนะทยอยช้อน 'หุ้นไทย'

นักลงทุนสถาบัน ประเมินหุ้นไทยยังผันผวนหนัก แนะกระจายลงทุนสินทรัพย์หลากหลาย บลจ.ไทยพาณิชย์ ชู 4 กลุ่มเติบโตสูง ทั้งโรงไฟฟ้า-อาหาร-โรงพยาบาล-การเงิน ชี้ช่วงราคาหุ้นร่วงหนักถือเป็นจังหวะทยอยสะสม ด้าน บลจ.กสิกรไทย ประเมินดัชนียังมีลุ้น 1,700 จุด

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจมีความผันผวน อัตราดอกเบี้ยอยู่ระดับต่ำ และมีแนวโน้มต่ำลงได้อีกนั้น มองว่า การกระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์เพื่อกระจายความเสี่ยงคือแนวทางที่ดีที่สุด โดยกระจายการลงทุนไปยังตลาดหุ้น กองทุนอสังหาริมทรัพย์ กองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Infrastructure Fund) ตราสารหนี้ รวมไปถึงการกระจายการลงทุนไปในต่างประเทศซึ่งจำเป็นมากขึ้น ส่วนหุ้นต่างประเทศเน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและไฮเทคที่ตลาดหุ้นไทยยังขาด

สำหรับดัชนีหุ้นไทยที่ปรับลดลง เป็นผลจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา อย่างไรก็ตาม มองว่าเป็นจังหวะดีที่จะเข้าลงทุนในหุ้นไทย 4 กลุ่ม ที่มีโอกาสเติบโต ได้แก่ 1.กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว สนามบิน ภาคบริการ โลจิสติกส์ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา ซึ่งราคาปรับย่อลง ถือเป็นโอกาสในการเลือกหุ้น ในแต่ละกลุ่มก็จะมีผู้นำกลุ่ม และดูได้จาก Selective Operating Margin

2.กลุ่มอาหาร กับ3.กลุ่มโรงพยาบาล ประเทศไทยก็ถือเป็น Hub และ4.กลุ่มธุรกิจการเงิน ที่เป็นธนาคารขนาดเล็กมีตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และนอนแบงก์ ก็น่าสนใจเข้าสะสมการลงทุน

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset ระบุว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปีของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในรอบนี้ อยู่ในกรอบที่ทางบริษัทได้ประเมินไว้อยู่แล้ว ที่คาดว่ากนง.จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยลง ด้วยปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เข้ามากระทบทั้งเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ ยังคงมองดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ระดับ1,700 จุด โดยมุมมองดังกล่าวรวมปัจจัยเสี่ยงใหม่อย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว ซึ่งเชื่อว่า เชื้อไวรัสฯดังกล่าวน่าจะควบคุมได้ภายใน2-3เดือน และหากพิจารณาดูจะพบว่าไวรัสฯนี้ไม่ได้รุนแรง สำหรับผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนชราที่มีโรคประจำตัว

สำหรับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นไทยก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ แต่ยังคงต้องคัดเลือกหลักทรัพย์พอสมควรเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่น โดยกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจลงทุน เน้นการลงทุนตาม Investment Theme มี3กลุ่ม คือ 1. กลุ่มหุ้นที่มีการฟื้นตัวของอัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลก ได้แก่ พลังงาน ปิโตรเคมี ส่งออก อาหาร 2. กลุ่มหุ้นใหญ่ที่มีรายได้ผันผวนน้อยตามปัจจัยเศรษฐกิจ ได้แก่ โรงไฟฟ้า ขนส่ง การเงิน 3. กลุ่มหุ้นปันผลในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด ได้แก่ ธนาคารขนาดเล็ก โทรคมนาคม