‘หุ้นแบงก์’ รูดหนักผวารื้อค่าฟี โบรกฯ เตรียมหั่น ‘เป้ากำไร’ ปีนี้อีกรอบ

‘หุ้นแบงก์’ รูดหนักผวารื้อค่าฟี โบรกฯ เตรียมหั่น ‘เป้ากำไร’ ปีนี้อีกรอบ

"หุ้นแบงก์" ร่วงยกแผง ผวา ธปท. เตรียมรื้อใหญ่โครงสร้างค่าธรรมเนียม กดดันผลดำเนินงาน บล.เอเซียพลัส จ่อหั่นประมาณการกำไรอีกรอบ หลังก่อนหน้าปรับลดลง 5% ผลจากการลดดอกเบี้ย คาด "เคแบงก์" กระทบหนักสุด ขณะ "แบงก์กลาง" ที่เน้นธุรกิจเช่าซื้อโดนผลกระทบน้อย

การเคลื่อนไหวของหุ้น “กลุ่มธนาคารพาณิชย์” วานนี้(11ก.พ.) ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า เตรียมปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ โดยจะออกแนวปฎิบัติ(ไกด์ไลน์) การคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมต่างๆ ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อให้สถาบันการเงินนำไปใช้กำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารพาณิชย์ลงอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดประมาณการณ์กำไรสุทธิของกลุ่มนี้มาแล้วรอบหนึ่ง โดยลดลงราว 5% มาอยู่ที่ระดับ 186,412 ล้านบาท จากผลกระทบการปรับลดดอกเบี้ยของแต่ละแบงก์ให้สอดคล้องกับการลดดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งการปรับลดประมาณการในครั้งนี้ เป็นผลจากการที่ ธปท. เตรียมปรับปรุงโครงสร้างค่าธรรมเนียมครอบคลุม 200 – 300 ผลิตภัณฑ์และทุกกลุ่มลูกค้า โดยคาดว่าจะออกเกณฑ์ใหม่ในไตรมาส 3 ปี 2563

ทั้งนี้ประเมินว่ารายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงทุกๆ 1% จะกระทบกำไรสุทธิลดลง 0.7% จากประมาณการเดิมที่คาดกำไรปีนี้ที่ 186,412 ล้านบาท โดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 2562 มีรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิคิดเป็นสัดส่วนเฉลี่ย 20% ของรายได้รวม ซึ่งหลักๆเป็นค่าธรรมเนียมบริการบัตรและบริการอิเล็กทรอนิกส์ โดยธนาคารกสิกรไทย(KBANK) มีสัดส่วน 23% ของรายได้รวม รองลงคือธนาคารกรุงเทพ(BBL) มีสัดส่วน 21% ของรายได้รวม, ธนาคารกรุงไทย(KTB) มีสัดส่วน 18.5% ของรายได้รวม และธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) มีสัดส่วน 18% ของรายได้รวม

ส่วนธนาคารพาณิชย์ที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า เพราะหากพิจารณาโครงสร้างค่าธรรมเนียมฯ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียล กรุ๊ป(TISCO) มีสัดส่วน 32% ของรายได้รวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Bancassurance และค่าธรรมเนียมในการบริหารกองทุน ส่วนด้านธนาคารเกียรตินาคิน(KKP) มีสัดส่วนราว 24% ของรายได้รวม

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยแนะนำ “น้อยกว่าตลาด” เนื่องจากแนวโน้มกำไรกลุ่มปีนี้ถือว่า Underperform กำไรตลาดปี 2563 ที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ทรงตัวจากปี 2562 รวมถึงคุณภาพสินทรัพย์ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวยังต้องเฝ้าระวัง

“ต้องรอทางแบงก์ชาติเปิดเผยรายละเอียดออกมาก่อนถึงจะคิดกำไรของกลุ่มธนาคารได้ว่าจะหายไปอีกเท่าไร แต่คงต้องปรับกำไรแบงก์ลงอย่างแน่นอน และหากดูสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมแล้ว KBANK จะกระทบหนักสุด แต่เชื่อว่าธนาคารเองก็ย่อมมีการปรับตัวเพื่อหารายได้อื่นๆมาทดแทน"

นายกรภัทร วรเชษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ได้ปรับลดประมาณการณ์กลุ่มแบงก์ไปเรียบร้อยแล้วในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่แรงกดดันรอบนี้ผลกระทบจริงยังไม่ได้มีการวิเคราะห์ เพราะต้องรอดูรายละเอียดที่ชัดเจนการปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมของธปท.ก่อนว่าออกมาเป็นอย่างไร