นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่าตนไม่เห็นด้วยกับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจเกินกฎหมายกำหนด ระบุให้สภาผู้แทนราษฎร ลงมติร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท วาระสองและวาระสามใหม่ ทั้งนี้ตนกังวลว่ากรณีที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่มีผลผูกพันทุกองค์กร แต่ศาลรัฐธรรมนูญใช้อำนาจเกินขอบของกฎหมาย จะเท่ากับให้ศาลรับธรรมนูญ มีสถานะเทียบเท่ารัฐธรรมนูญ และมีอำนาจที่เทียบได้กับเป็นผู้บัญชาการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ มีคำสั่งนัดประชุมสภาฯนัดพิเศษ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ วาระสอง และวาระสามแล้วนั้น พรรคอนาคตใหม่จะหารือในพรรคอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนที่มีความเห็นแย้งต่อการพิจารณาวาระสองและวาระสามว่า ต้องอภิปรายตามกระบวนการการพิจารณา และบางฝ่ายมองว่าไม่ต้องอภิปรายให้ลงมติเท่านั้น เป็นสิ่งที่นายชวนต้องวินิจฉัยส่วนพรรคอนาคตใหม่จะหารือร่วมกันอีกครั้ง
“ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากการเสียบบัตรแทนกันของส.ส.ซีกรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่ภาระของฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาฝ่ายค้านพยายามประคับประคององค์ประชุมมาโดยตลอด รวมถึงได้ทำตามการส่งสัญญาณของพรรครัฐบาลที่บางช่วงให้ส.ส.ฝ่ายค้าน อภิปรายเพื่อยื้อเวลารอให้ส.ส.รัฐบาลมาให้ครบก่อน อย่าเพิ่งจบอภิปรายและลงมติเป็นรายมาตรา แต่มีคนนำเรื่องไปบอกว่า ฝ่ายค้านพยายามถ่วงเวลา ซึ่งผมเคยคุยกับส.ส.อาวุโสของฝ่ายค้านพบว่าไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น”นายปิยบุตร กล่าว.
