ปรับตัวลดลง

ปรับตัวลดลง

ขึ้นขาย รอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมองเชิงลบ และคาดว่าตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลดลง แนวต้าน 1542 / 1550 จุด แนวรับ 1527 /1520 จุด ประเด็นที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงชะลอตัว หลังจีนประกาศเลื่อนเปิดทาการบริษัทฯ ในจีนออกไปอีก 1 สัปดาห์เพื่อลดการแพร่ระบาด ส่งผลให้ตลาดเริ่มวิตกต่อการขาดแคลนวัตถุดิบฯลฯ ส่งผลกระทบต่อการผลิตโทรศัพท์เคลื่อนที่ รถยนต์ ฯลฯ 2) การแถลงของประธานเฟดพาวเวล ต่อคณะกรรมาธิการการเงินสภาล่างวันนี้ อาจส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นโลก หากส่งสัญญาณออกมาตรการผ่อนคลายการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ 3) ผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2020E แม้จะช่วยทาให้ความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจไทย กรณีที่แย่ที่สุดหายไป แต่ยังคงส่งผลเชิงลบต่อ 2020E GDP เนื่องจากจะเบิกจ่ายล่าช้ากว่าปกติ 5 เดือน

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA: ประธานเฟด แถลงนโยบายการเงินกลางปีต่อ House financial services committee, สุนทรพจน์ของประธานอีซีบีที่สภาอียู, สุนทรพจน์ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ มินิอาโพลิส ซานฟรานซิสโก ในงานต่างๆ, UK: 4Q19E GDP

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยฟื้น +1.39% WoW ส่วนวันศุกร์ ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1535.24 จุด -0.55 จุด วอลุ่ม 6.05 หมื่นล้านบาท กลุ่มปิดบวก ได้แก่ พาณิชย์ +0.66% ธนาคารฯ +0.65% ส่วนกลุ่มปิดร่วง ได้แก่ ICT -1.32% ขนส่ง -1.0%

+ ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลง 0.3-1.07% และตลาดหุ้นยุโรป DAX-0.15% FTSE-0.27% หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตกลับมาปรับสูงขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวมาปิดบวก DJ +0.6% S&P500 +0.6% Nasdaq +1% จากการปรับสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Amazon Tesla

- น้ำมันร่วงแต่ทองขึ้นต่อ: วานนี้ WTI -USD0.75 ปิด USD49.57/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบปี Brent -USD1.20 ปิดที่ USD53.27/บาร์เรล หลังรัสเซียยังไม่เห็นด้วยกับการลดกาลังการผลิตเพิ่ม 6 แสนบาร์เรลต่อวันตามข้อเสนอของซาอุฯ ส่วนทองคำ +USD6.10 ปิดที่ USD1579.50/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow (3-7 ก.พ.): นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อ 6 ชาติในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) +USD1.11bn (Vs สัปดาห์ก่อน -USD660mn) โดยซื้อทุกตลาดยกเว้นไทย ที่มีแรงขายเป็นสัปดาห์ที่ 11 ในรอบ 12 สัปดาห์ จานวน –USD199mn (Vs สัปดาห์ก่อน –USD562mn) ทาให้ 2020E YTD มีแรงขายสะสม –USD761mn

- Coronavirus Update: รายงานผู้ติดเชื้อสิ้นสุดวันจันทร์ 10 ก.พ. อยู่ที่ 42,638 ราย (วันจันทร์ +2,478 ราย) ผู้เสียชีวิต 1,016 ราย (วันจันทร์ +108 ราย) โดยนอกประเทศจีน พบว่าผู้ติดเชื้อสูงสุด คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ไทย ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งเลื่อนเปิดงานของบริษัทฯ ในจีนออกไปอีก 1 สัปดาห์

+ งบประมาณรัฐบาล: ผลตัดสินของศาล รธน. 5 ต่อ 4 ให้พิจารณางบประมาณปี2020E วาระ 2-3 ใหม่ KTB คาดว่าผลกระทบ -0.25% ของ GDP ปี 2020E กรณีเบิกจ่ายงบลงทุนได้ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง ที่ 60% ประมาณ 10%

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจ: จับตา 1) MSCI Quartery Review (รู้ผลพรุ่งนี้เช้า) คาดว่าไม่มีหุ้นถูกเข้าหรือถอดออก แต่อาจมีปรับลดน้าหนักบาง บจ. ได้แก่ KBANK

+/- สรุปประเด็นสำคัญวันก่อนหน้า: 1)USA –รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ สูงกว่าคาด โดยเพิ่มขึ้น 225k (Vs คาด 160k,เดือน ธ.ค. +147k เดือน พ.ย. 261k) แต่อัตราว่างงานสูงกว่าคาดเป็น 3.6% (เดือน ธ.ค. 3.5%) 2) เยอรมนี -รายงาน Industrial Production เดือน ม.ค. ลดลงสูงสุดรอบ 11 ปี ที่ -3.5% MoM (Vs คาด -0.2% MoM) 3) จีน: CPI เดือน ม.ค. +5.4% YoY (Vs เดือน ธ.ค. 4.5% YoY) เพราะราคาหมวดอาหาร +20.6% YoY (Vs เดือน ธ.ค. +17.4% YoY) และหมวดที่มิใช่อาหาร +1.6% YoY (Vs เดือน ธ.ค. +0.3% YoY)

+/- USA: ผลเลือกตั้งตัวแทนพรรคเดโมแครตที่รัฐแรก IOWA พบว่า Pete Buttigieg จากรัฐอินเดียน่า ได้รับชัยชนะด้วยคะแนน 26.2%

กลยุทธ์: ขึ้นขาย รอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: BGRIM JASIF STEC

หุ้นโมเมนตัมบวก: TCAP BAM JMT CHAYO PLANB ESSO AMANAH SEAOIL SINGER

หุ้นโมเมนตัมลบ: FSS DOD K SYNEX SAPPE

Derivatives: แนะ wait&see รอ Update กลยุทธ์ภาคบ่าย (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)