หุ้นแบงก์ร่วงยกแผง ผวาธปท.เตรียมรื้อโครงสร้างค่าฟี

หุ้นแบงก์ร่วงยกแผง ผวาธปท.เตรียมรื้อโครงสร้างค่าฟี

ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า หลังจากแบงก์ชาติเล็งปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ โดยจะออกประกาศแนวปฏิบัติ (ไกด์ไลน์)การคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินทั้งระบบภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเปิดตลาดภาคบ่ายวันนี้ พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาระบุ ธปท.จ่อปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ โดยจะออกประกาศแนวปฏิบัติ (ไกด์ไลน์) การคำนวณอัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงินทั้งระบบภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เพื่อเป็นแนวทางให้สถาบันการเงินใช้ในการกำหนดค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรม

โดยส่งผลให้หุ้นในกลุ่มแบงก์ปรับตัวลดลงทันที อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ลดลงกว่า 2.74% มาอยู่ที่ระดับ 97.75 บาท หรือลดลง 2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,157 ล้านบาท,ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ลดลง 1.01% มาอยู่ที่ระดับ 147 บาท หรือลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,120 ล้านบาท, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ลดลง 1.74% มาอยู่ที่ระดับ 141 บาท หรือลดลง 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 970 ล้านบาท, ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ลดลง 0.62% มาอยู่ที่ระดับ 16.10 บาท หรือลดลง 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 228 ล้านบาท, และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ลดลง 1.74% มาอยู่ที่ระดับ 28.25 บาท หรือลดลง 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.7 ล้านบาท เป็นต้น

  นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับลดประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารลงอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ได้ปรับลดกำไรกลุ่มธนาคารลง 5% มาอยู่ที่ 186,412 ล้านบาท จากการปรับลดดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับการลดดอกเบี้ยนโยบาย และครั้งนี้เป็นผลจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมปรับปรุงโครงสร้างค่าธรรมเนียม ครอบคลุม 200 – 300 ผลิตภัณฑ์ และทุกกลุ่มลูกค้า และคาดออกเกณฑ์ใหม่ในไตรมาส 3/63

  "เราต้องรอทางธปท. เปิดเผยรายละเอียดออกมาก่อนถึงจะคิดกำไรของกลุ่มธนาคารได้ว่าจะหายไปอีกเท่าไร แต่คงต้องปรับกำไรแบงก์ลงอย่างแน่นอน และ หากดูสัดส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมแล้ว KBANK จะกระทบหนักสุด แต่เชื่อว่าธนาคารเองก็ย่อมมีการปรับตัวเพื่อหารายได้อื่นๆ มาทดแทน ไม่ว่าจะเป็น Bancassurance และ ค่าธรรมเนียมในกลุ่มตลาดทุน เพราะมีโอกาสที่จะถูกควบคุมน้อยกว่าค่าธรรมเนียมจากฝั่งธนาคาร"