ลุ้นรีบาวด์ที่แนวรับ

ลุ้นรีบาวด์ที่แนวรับ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย และแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดช่วงการซื้อขาย

แม้จะมีปัจจัยบวกจากการที่ศาล รธน. มีมติให้ พรบ.งบประมาณปี 63 ไม่เป็นโมฆะ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในแดนบวกสลับลบ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,535.24 จุด (-0.55 จุด) Volume 6.1 หมื่นลบ. ต่างชาติ -892 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 174.31 จุด +0.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดนิวไฮ ได้แรงหนุนจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของจีนกลับมาดำเนินการตามปกติในวันจันทร์หลังสิ้นสุดวันหยุดตรุษจีน และจีนประกาศอัดฉีดเงินทุนให้กับภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบของไวรัสโคโรนาแพร่ระบาด

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 75 เซนต์ -1.5% ปิด 49.57 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งรัสเซียยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อข้อเสนอที่ให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตรในการปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม

-WHO เตือนจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนานอกจีนอาจมีจำนวนมากกว่าที่รายงานอย่างเป็นทางการ

-ธปท.เตรียมาปรับโครงสร้างค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่จะมีไกด์ไลน์ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนการคิดวงเงินต้นในการคิดดอกเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้มีผลบังคับใช้ 1 พ.ค. กดดันผลการดำเนินงานหุ้นกลุ่มธนาคาร

- พฤติกรรมคนไทยหยุดเที่ยวกดดันภาคการท่องเที่ยว – โรงแรม – ค้าปลีก

*จับตาสหรัฐเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideway ออกข้าง แม้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมจีนจะเริ่มกลับมาดำเนินการบางส่วน แต่นักลงทุนยังคงกังวลผลกระทบทางเศรษฐกิจของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่  ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง เป็นตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,525-1,550 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS TM PHOL)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากไข้หวัดนกระบาดในมลฑลหูหนาน (TU CPF TFG)
  • รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว (AAV AOT MINT ERW)

หุ้นรายงานพิเศษ

BBL Analyst Meeting (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 196) ถือรอเกี่ยวเก็บผล

 

ปี 63  ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อพลิกเติบโต 3-4% จากหดตัว 1% ในปี 62  สิ่งที่น่าสนใจคือคุณภาพสินทรัพย์ที่ยังดีต่อเนื่องท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและยังคงเป็นธนาคารที่มีระดับ Coverage Ratio สูงสุดในระบบ (220% ณ ปลายปี 62)  ผลจากการตั้งสำรองคชจ.หนี้สูญฯ ตั้งแต่ปี 60 ในระดับสูงมาก 3.3 - 3.6 หมื่นลบ. โดยเฉพาะปี 62 ซึ่งมี credit cost ระดับ 1.6% ของสินเชื่อรวม จากระดับ 1.1% ในปี 61 โดยคชจ.สำรองหนี้สูญ 3.6 หมื่นลบ.แม้ NPL ลดลง 8%QoQ และ 1.2%YTD ทั้งนี้ผู้บริหารคาดคชจ.สำรองหนี้สูญในปีนี้อยู่ที่ราว 1.2 – 1.5 หมื่นลบ. กลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงปี 58-59

 

ผู้บริหารได้เน้นย้ำถึงแผนการลงทุนเข้าซื้อหุ้นธนาคารเพอร์มาตาที่ประเทศอินโดนีเซียว่าจะช่วยต่อยอดการเติบโตในอนาคตในการขยายฐานลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน เพิ่มเครือข่าย  กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติดีลนี้ 5 มี.ค. ประเมินกระบวนการเสร็จสิ้นภายในปีนี้

 

ความเห็น ฝ่ายวิจัยยังคงมีมุมมองบวกว่าดีลการเข้าซื้อธนาคารเพอร์มาตาจะเป็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคต  ขณะที่การเป็นธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งมีฐานลูกค้าประเภทสินเชื่อธุรกิจ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 0.65 เท่าต่ำกว่ากลุ่มที่ระดับ 0.83 เท่า แนะนำถือรอเก็บเกี่ยวผลที่จะงอกงามในอนาคต

ส่องหุ้น

        PLANB          แนวรับ 6.30 บาท                  แนวต้าน 6.60 , 6.95-7.10 บาท

        AMANAH       แนวรับ 3.44 บาท                  แนวต้าน 3.54-3.56 บาท

        KOOL           แนวรับ 0.97-0.95 บาท           แนวต้าน 1.06 , 1.12 บาท

หุ้นมีข่าว   

MC Analyst Meeting “มุมมองบวก

(+) รายงานกำไร 2Q63 (ต.ค.-ธ.ค.62) เท่ากับ 227 ลบ. +31%YoY + 121%QoQ โดยมีปัจจัยเติบโตจากรายได้สู่ 1,132 ลบ. +12%YoY +8%QoQ ส่วน %GPM ทรงตัวในระดับสูงที่ 58% และ %SG&A ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 36.5% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 39.5% ซึ่งเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าร้าน และ SSSG ที่โต 9.4%YoY ส่งผลให้กำไรงวด 1H63 เท่ากับ 328 ลบ. +25%YoY

 (+) บริษัทเริ่มดำเนินกลยุทธ์ที่ Active ขึ้น ส่วนหนึ่งเริ่มสะท้อนลงไปในผลประกอบการงวดล่าสุด อาทิ การใช้ Data Analytic การอัดงบโฆษณา การปรับปรุงหน้าร้านใหม่ ปรับใช้ Digital Platform(O2O) ตลอดจนการอบรมพนักงาน

 ความเห็น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าหุ้นมีความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากว่า 80% ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และสต็อกสินค้าล็อตเก่าทรงตัวในระดับสูงกว่า 1 พันลบ.

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 3.75 บาท)    คาดรายได้ปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท หรือโตไม่น้อยกว่า 25% จากปีก่อน เหตุจ่อบันทึกรายได้จากโซลาร์ฟาร์มในไทยและต่างประเทศกว่า 100 เมกะวัตต์ พร้อมตุนแบ็กล็อกงานรับเหมาก่อสร้างกว่า 8 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) MBK (Bloomberg Consensus 28.00 บาท) เล็งปรับแผนงานปี 63 รับมือไวรัสโคโรนาระบาด กระทบธุรกิจศูนย์การค้า-โรงแรมปทุมวัน ปริ๊นเซส กรุงเทพฯ แม้ชะลอไปบ้าง พร้อมเดินหน้าสร้างคอมมูนิตี้มอลล์ในปทุมธานี บนเนื้อที่ 5 ไร่ ขนาด 2 หมื่นตร.ม. มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท คาดสร้างเสร็จภายในปี 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) PSTC (ราคาเหมาะสม 0.88 บาท) เซ็น MOU ศึกษา "โครงการเชื่อมท่อน้ำมันไทย-สปป.ลาว" มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท คาด IRR ราว 9% พร้อมส่ง TPN สร้างคลังแห่งใหม่ จ.ขอนแก่นใช้เป็นจุดเชื่อม คาดก่อสร้างเสร็จ ต.ค.64 ลั่นสร้างรายได้ประจำ หนุนการเติบโตระยะยาว (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) INTUCH (ราคาเหมาะสม 77.94 บาท)  จ่ายปันผลครึ่งหลังปี 62 หุ้นละ 1.30 บาท ขึ้น XD วันที่ 25 ก.พ. 63 รวมทั้งปี 62 จ่ายหุ้นละ 2.62 บาท แม้แจ้งงบปี 62 มีกำไรสุทธิ 11,083 ล้านบาท ลดลง 4% จากปีก่อน เหตุบุ๊กส่วนแบ่งขาดทุน THCOM เพิ่มขึ้น จากการด้อยค่าสินทรัพย์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TQM (Bloomberg Consensus 68.25 บาท) ดีมานด์ประกันวินาศภัย-ประกันชีวิตโตแรง ดันยอดขายปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% เปิดทางพันธมิตรเข้าร่วมทุนหนุนการเติบโตระยะยาว แย้มมีนักลงทุนสถาบันสนใจเข้าขอข้อมูลเพียบ ฟากโบรก ปรับกำไรขึ้น 17% มีอัพไซด์จากการซื้อบริษัทนายหน้าประกันภัย หนุนรายได้พรีเมี่ยมปรับตัวขึ้นเกิน 20% (ที่มา ทันหุ้น)