4 ขั้นตอนเอาชีวิตรอด จากเหตุกราดยิงในที่ชุมชน

4 ขั้นตอนเอาชีวิตรอด จากเหตุกราดยิงในที่ชุมชน

“อ.เจษฎา” แชร์คลิปวิดีโอขั้นตอนการเอาตัวรอด จากเหตุกราดยิงในที่ชุมชน 4 ขั้นตอน “หนี ซ่อน สู้ และช่วย”

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.63  รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า คลิปวิดีโอนี้ดีมากเลยนะครับ จัดทำโดยมหาวิทยาลัยในอเมริกา เพื่อแสดงให้เรารู้ว่าจะต้องรับมืออย่างไรบ้าง เมื่อเกิดเหตุกราดยิงขึ้นมาโดยไม่คาดฝัน ... สงสัยทางผู้บริหารของจุฬาฯ และหน่วยงานอื่นๆ คงจะต้องวางแผนรับแบบนี้บ้างนะครับ "วิธีเอาตัวรอดจากเหตุกราดยิงในที่ชุมชน" (เครดิตแปลโดย เพจ ข่าวสวย Nice News)

วิธีเอาตัวรอดจากเหตุกราดยิงในที่ชุมชน ใน 4 ขั้นตอน หนี ซ่อน สู้ และ ช่วย

หนี

1. หนีไปทางออกที่ใกล้ที่สุดและไม่มีผู้ก่อเหตุ เช่น ทางออกฉุกเฉิน หน้าต่าง และอย่าใช้ลิฟต์

2.ถ้าถูกผู้ก่อเหตุพบ ให้วิ่งซิกแซก และหลบหาที่กำบังเป็นระยะ อาจเป็นเสา กำแพง หรือ วัตถุที่แข็งแรง

3. อย่ากดสัญญาณดับเพลิงเพราะจะทำให้คนยิ่งแตกตื่นและตกเป็นเป้าโจมตีได้ง่าย แต่ให้ตะโกนคำว่า ปืน หรือมือปืนแทน

ซ่อน

1. หลบซ่อนในห้องที่แข็งแรง เช่นห้องที่ติดกับลิฟต์ เพราะผนังจะแข็งแรงมากกว่าส่วนอื่น และหาสิ่งของมาปิดกั้นทางเข้าออกไว้ เพื่อที่คนร้ายจะไม่พังเข้ามาโดยง่าย โดยใช้สิ่งของขนาดใหญ่เช่นโต๊ะ ตู้ หรือหาอะไรมาขัดประตูไว้

2. หากไม่มีทางเลือก ให้หลบในตู้ที่มิดชิด หรือ ใต้โต๊ะ

3. งดการใช้เสียง และปิดแฟลชโทรศัพท์ อยู่ให้เงียบที่สุด และ พิมพ์หรือโทรติดต่อไปหาตำรวจ 191 เพื่อแจ้งเหตุร้ายเพื่อบอกสถานะการณ์ที่เกิดขึ้น

4. ห้ามแชร์โลเคชั่นที่หลบซ่อนลงในสื่อสาธารณะ เพราะจะทำให้คนร้ายรู้ที่อยู่เราได้

สู้

1. ท้ายสุดถ้าไม่มีทางหนีแล้ว ให้ใช้ของที่แข็งขว้างใส่คนร้ายหรือตีหรือพุ่งเข้าชาร์จ เมื่อคนร้ายกำลังเปลี่ยนกระสุน โดยเน้นทำให้คนร้ายล้มลง ใช้ได้ทั้งมีด กรรไกร ค้อน เก้าอี้

การช่วยเหลือ

1. ถ้ามีคนบาดเจ็บขอความช่วยเหลือคุณต้องแน่ใจว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้น ก่อนที่จะเปิดประตูให้ผู้บาดเจ็บเข้ามาหลบภัย

2. ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการหาผ้ามากดปิดแผลเพื่อลดการเสียเลือด หรือ หาสายรัดมารัดไม่ให้เสียเลือด

3. หากมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือให้ชูมือทั้งสองข้างให้สูงเพื่อป้องกันการเข้าใจสับสนกับผู้ก่อเหตุ

#savekorat

158123661185

ขอบคุณคลิปจากยูทูป เพจ อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ และเครดิตแปลโดย เพจ ข่าวสวย Nice News