'สมศักดิ์' ชูศาล รธน.พระเอกตัวจริง เหมือนได้วัคซีนรักษาประเทศ

'สมศักดิ์' ชูศาล รธน.พระเอกตัวจริง เหมือนได้วัคซีนรักษาประเทศ

"สมศักดิ์" ชู ศาลรธน.พระเอกตัวจริง เหมือนได้วัคซีนรักษาประเทศ ชี้ทำนักลงทุนมั่นใจ-ศก.หมุนเวียนดีขึ้น

เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ไม่เป็นโมฆะ ว่า สภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาในวาระที่สองและสามใหม่ ซึ่งทางประธานสภาได้นัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 13 ก.พ. ตนเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานเพราะได้พูดคุยและอภิปรายกันไปแล้ว จากนั้นเมื่อผ่านการเห็นชอบจะส่งต่อให้วุฒิสภาลงมติต่อ และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งจากที่เคยคาดการณ์ไว้ในตอนแรกว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯน่าจะตราเป็นกฎหมายสมบูรณ์ได้ภายในเดือน ก.พ. หากดูจากกระบวนการทั้งหมดแล้วก็คงจะคลาดเคลื่อนไปเล็กน้อยเท่านั้น

"การที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแบบนี้ ถือว่าเป็นคุโณปการ เป็นประโยชน์กับประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง ในความรู้สึกของผมนั้น ศาลรัฐธรรมนูญถือว่าออกมาแก้ปัญหาผ่าทางตันให้ประเทศ ถือว่าเป็นพระเอกตัวจริง ที่ผ่านมาหลายโครงการของรัฐต้องหยุดนิ่ง แม้ว่าจะมีการเปิดประมูลโครงการได้ แต่ยังไม่มีการเซ็นสัญญาเพราะยังไม่มีงบประมาณ ดังนั้นจากนี้ไป โครงการต่างๆของรัฐจะเดินหน้าได้อย่างเต็มตัว มีงบลงทุน มีเงินจ่ายให้กับผู้รับเหมาและบริษัทต่างๆ และพวกเขาจะได้นำเงินไปซื้อหิน ปูน ทราย ยาง มาก่อสร้าง นำเงินไปจ้างคนงาน ซึ่งจะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบ ก่อนหน้านี้บริษัทต่างๆเหล่านี้จะไปกู้ยืมเงินมาลงทุนก็ทำได้ยาก แต่เมื่อศาลมีมติออกมาแบบนี้ พวกเขาไปกู้เงินใครก็ได้ เพราะเขารู้ว่ามีเงินลงทุนแล้ว" นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่ทุกคนยังสงสัยว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯจะเป็นโมฆะหรือไม่และจะต้องหาทางออกอย่างไร เกิดความสับสน เหมือนการที่ประเทศติดไวรัสโคโรน่า แต่เมื่อศาลตัดสินออกมาแบบนี้ เหมือนว่าประเทศได้วัคซีน หายจากอาการวิกฤต ที่ผ่านมายังไม่มีกระทรวงไหนสามารถนำงบลงทุนไปดำเนินการได้เลย แต่ขณะนี้เราเห็นทางสว่างว่างบประมาณจะสามารถนำมาใช้ได้ในอีกไม่นาน จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และน่าจะช่วยฟื้นสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาให้กลับมาดีได้