ไซด์เวย์ / ปรับฐานบ้าง รอปัจจัยเพิ่มเติม

ไซด์เวย์ / ปรับฐานบ้าง รอปัจจัยเพิ่มเติม

การรีบาวด์ของ SET Index สัปดาห์นี้หลือทางขึ้นไม่มากแล้ว ด้วยเหตุผลเชิงปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ

KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ไซด์เวย์/ปรับลงได้บ้าง... ตลาดหุ้นไทยน่าจะชะลอการปรับขึ้น หลังดัชนีฯ บวก 3 วันติดต่อกัน (ใกล้เคียงที่คาดไว้ ว่าแรงซื้อ จากฝั่งสถาบันในประเทศจะผลักดันให้ดัชนีฯ รีบาวด์ได้) ขณะที่นักลงทุนติดตามปัจจัยที่สำคัญในวันนี้ ได้แก่ i) คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2563 ในวันนี้ ซึ่งแนวทางของคำตัดสินจะมีนัยสำคัญต่อช่วงเวลาการเริ่มเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2563 และต่อ GDP ของไทย ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ม.ค. ซึ่ง consensus คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.64 แสนคน... ด้านสถานการณ์ไวรัสโคโรนายังอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อวาน โดยอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตใกล้เคียงของเดิมล่าสุดติดเชื้อ 31,161 คน และเสียชีวิต 636 คน ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าการรีบาวด์ของ SET Index สัปดาห์นี้หลือทางขึ้นไม่มากแล้ว ด้วยเหตุผลเชิงปัจจัยพื้นฐานเป็นสำคัญ ล่าสุด EPS ปี 2563 ของหุ้นใน KGI universe ลดลงมาเหลือ 97.0 และส่งผลให้เป้าหมายดัชนีฯ ปี 2563 ลดลงเหลือ 1,600 จุด (อิงเป้าพีอีเดิม 16.5 เท่า) ซึ่งมีอัพไซด์จากระดับปัจจุบันเพียง 4.1% และเราเห็นถึงความเสี่ยงว่า EPS จะลดลงไปกว่าปัจจุบันหลังจากผลประกอบการไตรมาส 4/2562 รายงานออกมา... ทั้งนี้ จากสถิติพบว่าหาก SET Index เหลืออัพไซด์น้อยกว่า 3% จากเป้าหมายของเรา ดัชนีฯ จะเริ่มขึ้นไม่ไหว เราจึงเชื่อว่าดัชนีฯ ที่สูงกว่า ระดับ 1,550 จุด จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น อย่างมีนัยสำคัญ

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร ESSO*, BCPG*, JMART

- ESSO* (เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 7.0 บาท / แนวต้าน 7.35 - 7.5 บาท (Stop loss 6.6 บาท) 2) ล่าสุดค่าการลั่นเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่กลางเดือน ก.พ.นี้ หลังจากเริ่มมีดีมานด์น้ำมันดีเซลสำหรับธุรกิจเดินเรือ ตามมาตรฐาน IMO ใหม่ 3) PBV ล่าสุด 0.98 เท่า ปรับลงมาที่ระดับ -1.5 เท่าของส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต ... อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์วันนี้

- BCPG* (เป้าพื้นฐาน 21 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 15.3 บาท / พิจารณาแนวราคา 16.1 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไป 17.2 บาท (Stop loss 14.2 บาท) 2) ประเมินจะมีแรง Switching เปลี่ยนตัวเล่นจากหุ้นโรงไฟฟ้าที่ Valuation สูงและมีความเสี่ยงสถานการณ์ภัยแล้งที่ นิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก อาทิ GPSC*, GULF*, และ BGRIM* (เสี่ยงกระทบกำไร -4.6%, -2.4%, และ -1.4% ตามลำดับ) มายังหุ้นโรงไฟฟ้ าที่ยัง Laggard อาทิ BCPG*, EGCO*, และ EA* แทน ...อ่านรายละเอียดในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าวันนี้ 3) ประเมิน Valuation ถูกโดย Forward PE ลงมาตํ่าเพียง 13 เท่า แตะระดับ -2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต และ Dividend yield สูงราว 4 - 5% ต่อปี สูงสุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า

- JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 9.25 บาท / พิจารณาแนวต้าน 9.5 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 10 บาท (Stop loss 8.6 บาท) 2) ประเมิน Valuation laggard โดย PE ปีนีต้ ่ำเพียง ±14 เท่า ขณะที่คาดกำไรยังโต +10% YoY (ข้อมูล
Bloomberg consensus) 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q62 ยังเติบโต จาก i) ยอดขายสมาร์ทโฟนโต QoQ ในช่วง High season และ ii) คาดกำไรของ บ.ลูก JMT โตเด่น YoY และ SINGER ไม่เป็นตัวถ่วง 4) คาดได้อานิสงส์จากการที่ ที่ประชุม กนง ล่าสุด ลดอัตราดอกเบียนโยบายลง 0.25%
(ต้นทุนเงินทุนของ JMT และ SINGER ลดลง และกำลังซื้อ ผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ) และรับ Sentiment บวกจากที่ BTS* เข้าลงทุนใน JMT

หุ้นเชิงปริมาณ & พื้นฐาน "Quantamental"

- หุ้นเด่น Quantamental: แนะนำ นักลงทุนแบ่งเป็น 2 กลยุทธ์ 1) ซื้อหุ้นที่ Downside การปรับลดประมาณการฯน้อย และแนวโน้มกำไรเติบโตดี เลือก TPCH (Stop loss 11.6 บาท) และ JMT (Stop loss 20 บาท) / 2) Wait&see รอซื้อหุ้นที่พร้อมรีบาวด์หากปลดล๊อก 2 ปัจจัยลบได้แก่ ERW* และ
STEC*

- กลยุทธ์ Pair trade:

1) Long BBL* / Short KBANK* สำหรับในเชิงพื้นฐานเราประเมินมีโอกาสที่ BBL* จะปรับ Payout ratio สำหรับการจ่ายปันผลรอบนี้ หลังจากที่ KBANK* ทำการปรับมาแล้วก่อนหน้า ... ขาดทุนรวม-0.8%

2) Long EGCO* / Short RATCH* สำหรับในเชิงพื้นฐานเราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน EGCO* ใน 4Q62 จะเด่นกว่า RATCH* ... กำไรรวม +2.6%

หุ้นมีข่าว

(+) BTS* เก็บหุ้น JMT ลุยธุรกิจเงินสด (กรุงเทพธุรกิจ) BTS* ผนึก "กลุ่ม JMART" ทุ่มงบกว่า 500 ล้าน ถือหุ้น JMT 3.15% ดันธุรกิจสินเชื่อ-ตามทวงหนี้ครบวงจร หลังทิศทางธุรกิจเงินสดโตสวนเศรษฐกิจชะลอตัว พร้อมพิจารณาวงเงินสินเชื่อเพิ่มหลังปี 62 ปล่อยสินเชื่อแล้ว 2,000 ล้านบาท

(+) TCAP* กำไรพิเศษ 3 พันล. บุ๊กขาย"อายิโนะโมะโต๊ะ" ซื้อหุ้นคืน 6 พันล.เฉลี่ย 61.8 บ./หุ้น เริ่ม 11 ก.พ.นี้ (ข่าวหุ้น) บมจ.ทุนธนชาต (TCAP*) เตรียมบันทึกกำไรพิเศษขายหุ้น “อายิโนะโมะโต๊ะ” จำนวน 3 พันล้านบาท ไตรมาส 1/63 หลังแปลงสภาพเป็นโฮลดิ้ง แถมมีเงินปันผลที่ดี และโครงการซื้อ หุ้นคืน 6 พันล้านบาท เฉลี่ยที่ราคา 61.8 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคากระดาน เริ่มดีเดย์ 11 ก.พ.นี้ เผยการซื้อหุ้นคืนช่วยลดจำนวนหุ้นลง 8% ส่งผลให้ EPS สูงขึ้น

(-) AOT* ระส่ำโคโรนาพ่นพิษ! ผู้โดยสารวูบ 6 หมื่นคน/วัน (ข่าวหุ้น) AOT* ระส่ำ! 2 สนามบินหลัก “สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง” เจอโคโรนาพ่นพิษ! “สุวรรณภูมิ” ผู้โดยสารวูบหาย 50,000 คนต่อวัน จากปกติเดือน ก.พ.ต้องมีผู้โดยสารเฉลี่ย 2 แสนคนต่อวัน ล่าสุดเหลือ 1.4 แสนคนเท่านั้น พร้อมยอมรับไตรมาส 2 ผู้โดยสารโตลดลงแน่นอน ฟาก “ดอนเมือง” ผู้โดยสารจีนหายไป 8,000 คนต่อวัน เที่ยวบินลดเหลือ 38 ไฟลต์ต่อวัน

(+) ADVANC* งบปี 62 กำไรแน่น 3.1 หมื่นล.จ่ายปันผล 3.56 บ. (ทันหุ้น) ADVANC* ผลงานปี 2562 ปั๊มกำไรโต 31,051 ล้านบาท ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มหนุนพอร์ตลูกค้าโดยรวมแตะ 42 ล้านเลขหมายพร้อมจ่ายปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2562 อีก 3.56 บาทต่อหุ้น ขึน้ XD 19 กุมภาพันธ์ 2563 เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติออกหุ้นกู้ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เสริมแกร่งธุรกิจ