ปรับขึ้นต่อเนื่อง

ปรับขึ้นต่อเนื่อง

ขายที่แนวต้าน เพื่อรอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีแนวโน้มเชิงบวก และคาดตลาดหุ้นวันนี้ ปรับขึ้นต่อเนื่อง แนวต้าน 1545 / 1555 จุด แนวรับ 1525 / 1520 จุด อย่างไรก็ดี เราคาดว่าแรงซื้อคืนของตลาดหุ้นเอเชีย รวมถึงตลาดหุ้นไทยมีจำกัด (2 วัน หุ้นไทยบวก 38 จุด) เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียจะได้รับผลกระทบมากกว่าเมื่อเทียบกับสหรัฐฯ และยุโรป ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้ คือ 1) แรงซื้อคืนหุ้นอิงสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มท่องเที่ยว หลังตลาดมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อสถานการณ์ไวรัสฯ โดยมีข่าวพบยารักษาไวรัสฯ ในจีนและอังกฤษ แต่ WHO ปฏิเสธข่าวและแถลงว่ายังไม่มียาใดรักษาไวรัสฯ ได้ 2) การคาดว่ามีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามา อิงค่าเงินบาทเทียบ USD วานนี้ กลับมาแข็งค่า(ปิด 30.99 จาก 31.25 บาท) แม้กนง. จะประกาศลดดอกเบี้ยก็ตาม 3) อัตราเงินเฟ้อไทยเดือน ม.ค. คาดว่าจะยายตัวในระดับต่ำ ทำให้กนง. มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคต

ประเด็นสาคัญวันนี้: ไทย-เงินเฟ้อเดือน ม.ค. / USA-การลงมติการถอดถอนปธน.ทรัมป์ของวุฒิสภา / Earnings-Uber / Brussels-สุนทรพจน์ของประธานอีซีบี ลาการ์ด

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: แรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของกนง. เป็นปัจจัยสนับสนุนดัชนีฯ ขึ้นแรงในภาคบ่ายและมาปิดใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 1534.14 จุด +14.76 จุด +0.97% วอลุ่ม 6.66 หมื่นล้านบาท กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +2.43% ไฟแนนซ์ +2.42% พาณิชย์ +2.32% เกษตร +2.02%

+ ตลาดหุ้นโลกพุ่งต่อเป็นวันที่3: DJ +1.68% S&P500 +1.13% Nasdaq +0.43% DAX +1.48% FTSE +0.57% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ New High สำหรับ Nasdaq และ S&P500 หลังจากวานนี้รายงานจ้างงานภาคเอกชนพุ่งขึ้นสูงสุดรอบ 3.5 ปี และข่าวพบยารักษาไวรัสฯ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากรายงานผลกำไรที่ดีกว่าคาดและแรงซื้อคืนหุ้นทำธุรกิจเกี่ยวกับจีน กลุ่มรถยนต์ เทคโนโลยี วัสดุพื้นฐานฯ

+ น้ำมันดิบ&ทองคำฟื้นตัววันแรก: WTI +USD1.14 ปิด USD50.75/บาร์เรล Brent +USD1.32 ปิด USD55.28/บาร์เรล รับข่าวดีพบยารักษาไวรัสฯ ส่วนทองคำฟื้นตัว +USD7.30 ปิด USD1,562.80/ออนซ์ จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังร่วงแรง

ประเด็นสำคัญ

- Coronavirus Update: รายงานผู้ติดเชื้อสิ้นสุดวันพุธ 5 ก.พ. เพิ่ม 3,694 ราย เป็น 28,018 ราย (วันก่อนหน้า +3,886 ราย) ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 73 ราย เป็น 563 ราย (วันก่อนหน้า +65 ราย)

+/- ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: จับตา ไทย-เงินเฟ้อเดือน ม.ค. คาด +0.96% YoY (Vs เดือน ธ.ค. 0.87%) core Inflation เดือน ม.ค. +0.5% (Vs เดือน ธ.ค. +0.49%)

+ USA: วุฒิสภาลงมติคัดค้านการถอดถอนปธน.ทรัมป์ (ตามคาด) และปธน.ทรัมป์ เตรียมแถลงต่อประชาชนคืนนี้ เพื่อหาเสียงสนับสนุนการเลือกตั้ง

+ USA: ผลเลือกตั้งล่าสุดรัฐแรกของสหรัฐฯ ที่ IOWA พบว่า ปธน.ทรัมป์ได้คะแนนโหวต97.1% สาหรับพรรครีพับลิกัน ส่วนการเลือกตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งนับไป 86%ของทั้งหมด(87 จาก 99 เมือง) พบว่า Pete Buttigieg นาที่ 26.7% ใกล้เคียงกับ Bernie Sanders ที่ 25.4%

+ ไทย: กนง. มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยฯ 0.25% เป็น 1% (ดีกว่าตลาดคาด) เป็นปัจจัยบวกต่อการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจที่ลดลงมาต่ากว่าระดับศักยภาพ

- เศรษฐกิจไทย: กกร. ลดเป้าหมายเติบโตปีนี้เป็น 2-2.5% (เดิม 2.5-3%) อิงรายได้ท่องเที่ยวหายไป 1.08-2.2 แสนล้านบาท อิงการระบาด 3 เดือน ส่วน TMB ปรับลดเหลือ 1.7-2.1% (เดิม 2.7%) และ EIC ลดเหลือ 2.1% (เดิม 2.7%)

+/- ไทย: การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ 5 รัฐมนตรี จะมีขึ้นในวันที่ 24-26 ก.พ. และอาจขยายได้ถึงวันที่ 27 ก.พ. ก่อนลงมติในวันที่ 28 ก.พ.

+/- ไทย: ม.หอการค้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ม.ค. ต่าสุดรอบ 69 เดือน อยู่ที่ 67.3 (Vs เดือน ธ.ค. 68.3) และคาด GDP ปีนี้ มีความเสี่ยงลดลง 1.3% จากประมาณการ 2.8%

กลยุทธ์: ขายที่แนวต้าน เพื่อรอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: DIF JASIF JMT

หุ้นโมเมนตัมบวก: BEAUTY KCE WHA JMT AMATA STA ERW CENTEL CHAYO TKN GLOBAL BIG SAMART ANAN AMANAH MC

หุ้นโมเมนตัมลบ: GPSC SUN SEAOIL PHOL

Derivatives: แนะทยอยปิด Long S50H20 เป้าทากาไรที่ 1030 จุด (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)