คนไทยรายแรกติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น หมอรพ.นครปฐมรักษาจนหายได้

คนไทยรายแรกติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น หมอรพ.นครปฐมรักษาจนหายได้

เปิดใจ หญิง วัย 73 ปี คนไทยรายแรกติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น ที่เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019  ที่โรงพยาบาลนครปฐม เป็นเวลา 9 วัน หลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน กระทั่งหายเป็นปกติ

วานนี้(4ก.พ.) เพจเฟซบุ๊ก “พรรคพลังประชารัฐ” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า#เปิดใจคนไทยรายแรกติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นแต่หมอต่างจังหวัด...รักษาจนหายได้เมื่อไหร่...จะออกจากโรงพยาบาลได้จะทัน ... วันตรุษจีนไหมฉันต้องออกไปทำขนมเข่งกับห่อขนมเทียนไหว้เจ้า โดยเนื้อหาเป็นเรื่องราวของ นางใจม่วย แซ่อึ๊ง หญิงวัย 73 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ผู้ป่วยหญิงไทยรายแรกที่เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019  ที่โรงพยาบาลนครปฐม เป็นเวลา 9 วัน หลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน กระทั่งหายเป็นปกติ

วันเดียวกันผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขต 5 สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการนำผู้ป่วยคนไทยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นรายแรกที่เมืองอู่ฮั่น รวมถึงแนวทางการรักษาให้หายขาด โดยมีผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจ ติดตามสัมภาษณ์อาม่าวัย 73 ปี ซึ่งเป็นคนไทยรายแรกที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้วหายขาดจากการรักษาของทีมแพทย์ด้วยเช่นกัน

สำหรับผู้ป่วยรายนี้คือนางใจม่วย แซ่อึ๊ง หญิงวัย 73 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ผู้ป่วยหญิงไทยรายแรกที่เข้ารับการรักษาอาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หลังเดินทางกลับจากท่องเที่ยวที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน กับลูกหลาน ตั้งแต่วันที่ 25 ธ.ค. 2562 เดินกลับถึงเมืองไทยวันที่ 3 ม.ค. 2563 จากนั้นเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ครั่นเนื้อครั่นตัว กินอาหารไม่ได้ ญาติจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม หมอวินิจฉัยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019

โดยอาม่าบอกว่าตอนแรกก็ตกใจ  ไปเที่ยวจีนกลับมาแล้วติดเชื้อ และยังเป็นคนไทยรายแรกอีกต่างหาก ขณะที่ญาติเองก็มีความรู้สึกตกใจไม่แพ้กัน กังวลว่าโรงพยาบาลนครปฐม จะรับมือกับโรคใหม่ที่ไม่มียารักษาได้หรือไม่ หากเทียบกับความพร้อมของโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ในกรุงเทพมหานคร

ทีมแพทย์ เล่าว่า ตอนที่อาม่าใจม่วย เข้ามาหาครั้งแรก ตรวจพบการติดเชื้อมาแล้ว 12 วัน ซึ่งอยู่ในระยะเพาะเชื้อ 14 วัน และยังตรวจพบโรคแทรกซ้อนอีกหลายโรค อาทิ โรคหัวใจ ไทรอยด์ ความดันโลหิตสูง เอ็กซเรย์พบน้ำท่วมปอด ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าอาการอาจจะกำเริบของหัวในและปอด จากนั้นทีมแพทย์ประกอบด้วย อายุรกรรมแพทย์โรคหัวใจ อายุรกรรมแพทย์โรคติดเชื้อ อายุรกรรมแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ และจิตแพทย์ทำการประเมินอาการร่วมกัน ก่อนจะวินิจฉัยว่าสามารถรับมือได้ เนื่องจากโรงพยาบาลมีผู้เชี่ยวชาญครบทุกด้าน จึงค่อย ๆ รักษาตามอาการ

โดยใช้ทีมแพทย์ 6 คน พยาบาลอีก 11 คน เนื่องจากเป็นโรคใหม่ โดยมีการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านคอยตรวจอาการ พร้อมประเมินผู้ป่วยทุกวัน นอกจากนั้นยังใช้จิตแพทย์เข้าไปดูแล มีทีวีให้ชม รวมถึงการพูดคุยผ่านระบบอินเตอร์คอมและโทรศัพท์ที่อยู่ภายในห้องปลอดเชื้อ เพื่อเป็นการผ่อนคลาย เนื่องจากผู้ป่วยอยู่ไกลญาติ อาจจะเกิดความเครียดและส่งผลต่อร่างกายตามมาได้ โดยการรักษาใช้วิธีรักษาตามอาการไปเรื่อย ๆ จนคนไข้สามารถมีภูมิต้านทานขึ้นมาจนมีค่าการติดเชื้อเป็นลบในที่สุด หลังเข้ารับการรักษานาน 9 วัน สุดท้ายอาม่าใจม่วยก็หายเป็นปกติ 

อ่านข่าว
เจาะเรื่องลับ 'ไวรัสโคโรน่า' และอัพเดตข้อมูลที่ต้องรู้!