HMPRO - ถือ

HMPRO - ถือ

ประมาณการ 4Q62: กำไรจะลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ

Event

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ HMPRO ใน 4Q62 จะอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท (-3.2%YoY แต่ +10% QoQ) ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2562 เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 6.1 พันล้านบาท (+8.0% YoY) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่กำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะ SSSG ติดลบเนื่องจากภาวะการบริโภคอ่อนแอ

lmpact

ยอดขายอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจ

เราคาดว่า SSSG จะติดลบที่ -2.0% ใน 4Q62 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอจากวิกฤติภัยแล้ง และ CCI ลดลงอย่างต่อเนื่อง (CCI ลดลงจาก 70.7 ในเดือนตุลาคม 2562 เหลือ 68.3 ในเดือนธันวาคม 2562) เราคาดว่ายอดขายใน 4Q62 จะอยู่ที่ 1.58 หมื่นล้านบาท (-0.7% YoY แต่ +3.5% QoQ) ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายปี 2562 เพิ่มขึ้น 2% YoY เป็น 6.28 หมื่นล้านบาท โดย SSSG ปี 2562 อยู่ที่ 1.1% (จาก 1.2% ในปี 2561) ทั้งนี้ HMPRO ได้เปิดสาขา Mega Home สองแห่งใน 4Q62 (ที่ระยอง และ บางนา-ตราด ซึ่งทำให้จำนวนสขาทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 113 สาขา จาก 108 สาขาใน 4Q61 เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 27.9% จาก 27.1% ใน 3Q62 จากกลยุทธ์การเน้นขายสินค้า house brand

ปรับลดประมาณการกำไรลงเพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์เลวร้าย

เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคยังไม่ชัดเจนเพราะถูกกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งวิกฤติภัยแล้ง และการระบาดของ Coronavirus เราจึงคาดว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายจะยังคงกดดันภาวการณ์บริโภค และฉุดยอดขายของ HMPRO ดังนั้นเราจึงปรับลดสมมติฐาน SSSG ปี 2563 ลงเหลือ 0.5% (ลดลง 1.5%) และปี
2564 ลดเหลือ 1.5% (ลดลง 1.0%) และปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้และปีหน้าลง 0.2pptsเหลือ 27.0% ในปี 2563 และ 27.1% ในปี 2564 เพื่อสะท้อนถึงการแข่งขันที่คาดว่าจะเข้มข้นมากขึ้นในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ ทั้งนี้ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะยังคงอยู่ในขาขึ้นจากการที่บริษัทใช้กลยุทธ์เน้นขายสินค้า house brand ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลง 3.4% และปี 2564 ลง 5.3% ส่งผลให้อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 5.0% และปี 2564 อยู่ที่ 6.6%

Valuation & Action

เราปรับลดราคาเป้าหมาย DCF ลงจากเดิม 17.50 บาท เหลือ 16.60 บาท โดยใช้ WACC ที่ 8.3% R(f) ที่ 3.1% และ TG ที่ 2.0% ถึงแม้ว่าราคาหุ้น HMPRO จะมี upside ถึงราคาเป้าหมายอีก 16.9% แต่ราคาหุ้นก็ยังถือว่าแพง โดยคิดเป็น PER ที่ 28.7X เมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในกลุ่มที่ 26.7X นอกจากนี้ เรามองว่ายังมีความเสี่ยงด้าน downside อีกจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่เกิดจากการระบาดของ Coronavirus ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ "ถือ"

Risks

เศรษฐกิจชะลอตัวลง เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่ สภาวะโลกร้อน และขยายสาขาใหม่ได้ช้าเกินคาด