จีนเพิ่มผลิตหน้ากาก N95 กัน 'โคโรน่า' 10 ล้านชิ้นต่อวัน

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ทางการจีนมีความพยายามอย่างยิ่งยวด ในการจัดหาเวชภัณฑ์และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ระหว่างการต่อสู้กับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ขณะที่ผู้ผลิตได้เพิ่มกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนที่มากขึ้น และชุดป้องกันสำหรับทีมแพทย์ที่ใช้ในโรงพยาบาลที่กลายเป็นสิ่งจำเป็น ก็เพื่อให้ความมั่นใจได้ว่าจะมีใช้เพียงพอทั้งในเมืองอู่ฮั่น และเมืองต่าง ๆ ในมณฑลหูเป่ย์และทั่วประเทศ 

หน้ากากอนามัยรุ่น N95 กลายเป็นสินค้าที่หายากในภาวะเช่นนี้ หลายคนกว้านซื้อจนหมดชั้นวางสินค้า และเป็นเรื่องยากที่จะหาซื้อในออนไลน์ โดยเฉพาะในเมืองอู่ฮั่นได้รับผลกระทบมากที่สุด ทำให้ทางการจีนต้องประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ขณะที่ผู้ผลิตเวชภัณฑ์เหล่านี้ต้องเรียกคนงานกลับมาผลิตหน้ากากอนามัยเป็นการด่วน และเพิ่มกำลังการผลิตอีกหลายเท่าตัว

มีรายงานว่า โรงงานผู้ผลิตเวชภัณฑ์ในเมืองเซาจวง ทางตอนใต้ของมณฑลซานตง ซึ่งมีพนักงานประมาณ 300 คนได้อาสาทำงานในช่วงที่รัฐบาลจีนประกาศวันหยุด ซึ่งโรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในร้อยโรงงานที่ให้ความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ซึ่งเพิ่มคำสั่งซื้อเวชภัณฑ์หน้ากากอนามัย อุปกรณ์ตรวจสอบการติดเชื้อ และชุดป้องกันทางการแพทย์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม การผลิตมีขึ้นในเมืองต่างๆทั่วประเทศ อาทิ เซี่ยงไฮ้ ซานตง โดยมีเป้าหมายการผลิตหน้ากากอนามัยในทุกแห่งรวมกัน 10 ล้านชิ้นต่อวัน ส่วนชุดอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ 20,000 ชุดต่อวัน ขณะที่ผลิตเจลล้างมือ 140 ตัน และแอลกอฮอล์ทางการแพทย์ 407 ตัน

ด้านสำนักงานการบินพลเรือนจีน (ซีเอเอซี) เปิดเผยว่า จีนเร่งขนส่งอุปกรณ์ฉุกเฉินทางอากาศเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

ซีเอเอซี รายงานว่า ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินที่ขนส่งอุปกรณ์ฉุกเฉินทั้งหมด 4,330 เที่ยว

ทั้งนี้ เที่ยวบินดังกล่าวทั้งหมดทำการขนส่งสิ่งของมากกว่า 604,000 รายการ รวมถึง หน้ากาก เสื้อผ้าป้องกันทางการแพทย์ และยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาด

เที่ยวบินดังกล่าวจำนวน 138 เที่ยวได้ถูกส่งไปยังมณฑลหูเป่ย์ เพื่อส่งมอบอุปกรณ์ฉุกเฉินมากกว่า 192,000 รายการ โดยมีน้ำหนักรวมประมาณ 1,213 ตัน

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ซีเอเอซี ยังได้ประสานงานกับสายการบินต่างๆ เพื่อส่งบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 7,558 รายไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสดังกล่าว ตลอดจนนำผู้โดยสารจำนวน 399 รายจากต่างประเทศเดินทางกลับบ้านด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ