ผ่าเทรนด์ 'คลาวด์' เมื่อ '5G' คือ หนึ่งตัวแปรสำคัญ
ไฮบริดคลาวด์กลายเป็นโอกาสทางการตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และอยู่ในแผนอนาคตของผู้มีอำนาจตัดสินใจในด้านไอทีเกือบ 80%
นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า 5G คือ องค์ประกอบที่สำคัญมาก เมื่อมีองค์กรที่ต้องการใช้เอดจ์ เป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์มากขึ้น ไฮบริดคลาวด์จะทำหน้าที่เป็น Aggregation Point สำหรับข้อมูลและฟังก์ชันแบ็ค-เอ็นด์ที่เกี่ยวข้องที่สุด ขณะที่ เอดจ์ สามารถรองรับระบบวิเคราะห์และฟังก์ชันที่เป็นหัวใจสำคัญแบบเรียลไทม์ ณ จุดที่ข้อมูลถูกสร้างขึ้นและดำเนินการกับข้อมูลนั้น
"5G คือ เทคโนโลยีสำคัญที่จะทำให้เอดจ์เป็นจริงได้ เพราะมีความเร็วสูงกว่า มีแบนด์วิธกว้างกว่า รายงาน โมบาย อีโคโนมี ของจีเอสเอ็มเอ ระบุว่า นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมานั้นจะช่วยอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจทั่วโลกสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วง 15 ปีข้างหน้า"
‘เอไอ-ซิเคียวริตี้’ ชี้วัดความสำเร็จ
แนวโน้มสอง ระบบอัตโนมัติ (Automation) จะยิ่งมีบทบาทสำคัญในเฟสต่อไปของมัลติคลาวด์แบบไฮบริด โดยจำนวนบริษัทที่นำกลยุทธ์มัลติคลาวด์แบบไฮบริดมาใช้ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ไฮบริดคลาวด์กลายเป็นโอกาสทางการตลาดที่มีมูลค่าสูงถึง 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และอยู่ในแผนอนาคตของผู้มีอำนาจตัดสินใจในด้านไอทีเกือบ 80%
"เมื่อต้องใช้คลาวด์หลายระบบ องค์กรจะต้องมองหาวิธีจัดการกับความซับซ้อนมากขึ้น เรื่องนี้จะกลายเป็นปัจจัยชี้วัดความสำเร็จของกลยุทธ์คลาวด์ขององค์กรเลยทีเดียว และในท้ายที่สุดจะทำให้เกิดเครื่องมืออัตโนมัติต่างๆ ขึ้นในปี 2563 เพื่อจัดการกับความซับซ้อนในส่วนนี้ โดยในช่วงแรกจะเป็นการนำเครื่องมือที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์มาใช้งาน"
แนวโน้มที่สาม คือ “ศูนย์บัญชาการ” (Command Center) ด้านความปลอดภัยจะผุดขึ้นอีกมาก เป็นผลจากกลยุทธ์ไฮบริดคลาวด์ ผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านไอทีประมาณ 60% มองว่า ความปลอดภัยเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการเลือกผู้ให้บริการระบบคลาวด์
“ปีนี้ คาดว่าจะเห็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความปลอดภัยเพิ่มขึ้น และรับมือเมื่อเกิดเหตุได้เร็วขึ้นผ่านทางแดชบอร์ดที่ช่วยรวมการจัดการทุกอย่างไว้ในที่เดียว และการมีศูนย์บัญชาการเพียงหนึ่งเดียว จะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เรียกได้ว่านี่คือพื้นที่ที่กำลังวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว”
‘คลาวด์’ เฉพาะกลุ่มมาแรง
แนวโน้มที่สี่ คือ มีการเปิดรับระบบคลาวด์เฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากภาคการเงินการธนาคาร เมื่อองค์กรหันมาใช้ระบบคลาวด์ ก็ย่อมมองหาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจนั้นได้อย่างตรงจุด และคุณสมบัติที่สำคัญ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจที่มีการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด คือช่วยลดภาระในด้านการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ
"ไอบีเอ็ม พบว่า ปัจจุบันมีองค์กรเพียง 40% ทั่วโลกที่มีทักษะและกลยุทธ์พร้อมสำหรับจัดการกับสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ และนี่ก็คือเรื่องที่ระบบคลาวด์เฉพาะด้านสำหรับแต่ละภาคธุรกิจสามารถช่วยองค์กรได้ ทำให้องค์กรไม่ต้องวุ่นวายกับความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐานและสถาปัตยกรรมคลาวด์"
แนวโน้มสุดท้ายที่จะเห็นปีนี้ คือ เครื่องมือแบบโอเพ่นซอร์สจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบคลาวด์ ซึ่งปี 2563 นักพัฒนาจะหันมาเน้นเรื่องเครื่องมือที่สามารถรองรับการนำแอพพลิเคชั่นออกใช้งานแบบรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจต้องมีเพื่
