หวั่นโคโรนากระทบเศรษฐกิจโลก

หวั่นโคโรนากระทบเศรษฐกิจโลก

ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีปิดปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง กดดันกลุ่ม ENERG ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,514.14 จุด (-9.85 จุด) Volume 5.6 หมื่นลบ. ต่างชาติ -4,015.29 ลบ. TFEX Net  -6,248 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+อังกฤษออกจาก EU อย่างเป็นทางการแล้ว ในเวลา 23.00 น.ของวันศุกร์ที่ 31 ม.ค. 2563

+ตัวเลขศก.สหรัฐที่ออกมาดี ได้แก่ ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐสูงกว่าคาดในเดือนม.ค. การใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสอดคล้องคาดการณ์ในเดือนธ.ค. ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค.

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 603.41 จุด -2.09% กังวลการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ และการเปิดเผยผลประกอบการที่ไร้ทิศทางของบริษัทจดทะเบียนสหรัฐ

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 58 เซนต์ -1.1% ปิดที่ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล กังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก

-จีนเปิดเผยว่าไข้หวัดนก H5N1 ระบาดในมณฑลหูหนาน จากสถิติผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้มีโอกาสเสียชีวิตกว่า 50% สูงกว่าโรคซาร์ส ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิต 10% และไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่มีอัตราการเสียชีวิต 2%

-หลายสำนักวิจัยต่างปรับลดประมาณการณ์ GDP ปี 63 ลง จากผลกระทบของการท่องเที่ยวชะลอตัว

-ฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลพุ่งเป้านายกฯและรมว. 5 กระทรวง

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 17,302.45 ลบ. ค่าเงินบาท 31.21 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผย PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยนักลงทุนวิตกกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ประกอบกับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,490-1,515 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากไข้หวัดนกระบาดในมลฑลหูหนาน (TU CPF TFG)

หุ้นรายงานพิเศษ

KTB Analyst Meeting

ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 18.29 บาท

ถือรอรับเงินปันผล

 

  • ภาพรวมการดำเนินงานปี 62 ดูดี มีกำไรสุทธิ 2.9 หมื่นลบ. +2.8% สินเชื่อเติบโต 3.2%YTD ในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อบริษัท คุณภาพของสินทรัพย์ไม่น่ากังวลแม้ว่ามีการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า %NPL ปลายปี 62 ลดเหลือ 4.33% จาก 4.53% ณ ปลายปี 61 โดยมี credit cost ลดเหลือ 1.16% จาก 1.32% ในปี 61 และ Coverage Ratio ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 132% จาก 126% ในปี 61
  • ปี 63 ผู้บริหารมีเป้าสินเชื่อเติบโต 3.5% งบลงทุนในปีนี้ราว 14,000 – 15,000 ลบ. ใช้ในการสร้าง digital platform เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต
  • ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาวในฐานะแบงก์รัฐที่ได้ประโยชน์หลังเบิกจ่ายงบประมาณและการเร่งประมูลโครงการขนาดใหญ่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 63 เฉลี่ย 2.95 หมี่นลบ. ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า IAA Consensus คาด yield เฉลี่ย 5% น่าสนใจถือรอรับเงินปันผล

ส่องหุ้น

          DELTA     ​​แนวรับ 53.50 บาท​​​​แนวต้าน 55.50 , 56.25 บาท

          SISB       ​​แนวรับ 9.85-9.80 บาท​​​แนวต้าน 10.10-10.30 บาท

          AUCT      ​​แนวรับ 6.50-6.45 บาท​​​แนวต้าน 6.65 , 6.75-6.80 บาท

หุ้นมีข่าว   

(+) ประเด็นบวกกลุ่มสายการบิน : ครม.เศรษฐกิจไฟเขียวลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน รวมทั้งปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงของอากาศยาน เป็นการชั่วคราว เพื่อบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ด้านสรรพสามิตยันกระทบรายได้รัฐไม่มากแค่ 2-3 พันล้าน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) GULF (Bloomberg Consensus 171.22 บาท) PTT (Bloomberg Consensus 49.97 บาท) เดินหน้าประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 วงเงิน 8.4 หมื่นล้านบาท นัดกลุ่ม GULF-PTT ชี้แจงข้อเสนอเทคนิคและแผนการลงทุนอีกรอบ 5 ก.พ.นี้ หลังชี้แจงรอบแรกแล้วยังมีข้อสงสัยเรื่องโมเดลการเงิน คาดได้เซ็นสัญญาปลายปี 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) WP (Bloomberg Consensus - บาท)  กางแผน 5 ปี เดินหน้าธุรกิจ LPG ครบวงจร เล็งซื้อกิจการโรงผลิตและซ่อมถัง พร้อมธุรกิจกองเรือ ล่าสุดจับมือพันธมิตรลุยธุรกิจอาหาร เตรียมเสนอบอร์ดอนุมัติ 1 ดีล ภายในไตรมาส 1 ปีนี้ (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MJD (Bloomberg Consensus - บาท) เตรียมขนทัพคอนโดฯ พร้อมอยู่ 14 โครงการ จัดแคมเปญ “LUCKY NO.9 เฮง 9 ต่อ!! รับฟรี 9 รายการ เริ่ม 2.9 ลบ.ระหว่างวันที่ 5-12 ก.พ.นี้ ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว พร้อมลุ้นรับทองคำหนัก 1 บาททุกวัน (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TMI (Bloomberg Consensus - บาท) คาดปี 63 จะหวนกลับมามีกำไรครั้งแรกในรอบ 4 ปี มีโอกาสโชว์กำไรตัวเลข 2 หลัก รับแรงหนุนออเดอร์ประกอบโคมไฟล็อตใหญ่จากจีน และเตรียม COD โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 2 แห่ง ที่สมุทรสาคร-ราชบุรี ผลิตรวม 3.96 MW ภายในปีนี้ และบุ๊กเต็มปีโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพที่ชุมพร 1.40 MW ส่วนรายได้ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 450 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) MTC (Bloomberg Consensus 66.21 บาท)  มองเศรษฐกิจปี 2563 ซบเซา รับแรงกระทบภัยแล้งผลผลิตทางการเกษตรน้อย ไวรัสโคโรนาระบาด เชื่อควบคุม NPL ต่ำ 2% ด้านมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 มองส่งผลกระทบเชิงบวกรีเวิร์สสำรองกลับคืน ปักธงยอดปล่อยสินเชื่อปี 2563 โต 20-25% เร่งเครื่องขยายสาขาใหม่กว่า 600 แห่ง ยิ้มรับโรดโชว์กระแสตอบรับดี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCC (Bloomberg Consensus 389.13 บาท) SCGP เปิดทาง Rengo ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์จากญี่ปุ่นถือหุ้น UPPC บริษัทย่อยในฟิลิปปินส์ สัดส่วน 25% คิดเป็นเงินลงทุน 2.5 พันล้านบาท คาดจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2563 หนุนฐานลูกค้าเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PTG (Bloomberg Consensus 22.35 บาท)  ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายปั๊มธุรกิจ Non-Oil เล็งต่อยอดธุรกิจ พร้อมวางเป้ายอดขายน้ำมันปี 2563 เติบโต 15-20% ค่าการตลาดเหมาะสม (ที่มา ทันหุ้น)