ขึ้นในกรอบจำกัด

ขึ้นในกรอบจำกัด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงเล็กน้อย โดยระหว่างวันดัชนีปรับตัวลงเกือบ 6 จุด จากปัจจัยเฉพาะตัวจากหุ้น ADVANC-INTUCH

ก่อนที่จะมีแรงซื้อเข้ามาช่วงท้ายตลาดจากข่าวการซื้อหุ้นคืนของ KBANK และกลุ่มรับเหมาที่คาดการณ์เชิงบวกก่อนรู้ผลการประมูลสนามบินอู่ตะเภา ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,523.99 จุด (-0.60 จุด) Volume 5.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,272.48 ลบ. TFEX Net  -5,025 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 124.99 จุด +0.43% หลัง WHO ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก เพื่อเปิดทางสู่ความร่วมมือในการยับยั้งการแพร่ระบาด

+สหรัฐเผยจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลง 7,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

+ EU เผยดัชนีความเชื่อมั่นยูโรโซนพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือนม.ค.

+/-ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติ 7-2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75%

-สหรัฐเผย GDP Q4/62 ขยายตัว 2.1% แต่ทั้งปี 2562 โต 2.3% ต่ำสุดรอบ 3 ปี

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.19 ดอลลาร์ -2.2% ปิดที่ 52.14 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน

-จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกพุ่งทะลุ 8,100 ราย แซงหน้า SARS

+/-ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรดประจำ Q4/62 ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากในช่วง Q3 โดยมีปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยลบคือภัยแล้ง ส่งออกหดตัว และค่าเงินบาทแข็งค่า

+/-ธปท. กระตุ้นธนาคาร-สถาบันการเงินช่วยเยียวยาลูกค้าประสบปัญหาจากไวรัสโคโรนา

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 13,287.16 ลบ. ค่าเงินบาท 31.12 บาท/US

*จับตาธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ ส่วนสหรัฐเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. และ EU เผย GDP ไตรมาส 4/2562

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด หลัง WHO ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธาณสุขของโลก ซึ่งนักลงทุนมีความคาดหวังว่ามาตรการของ WHO จะช่วยยับนั้งการแพร่ระบาดได้ ขณะที่ตลาดยังถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,515-1,535 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

·      ได้ประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (BH BCH BDMS)

·      หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)

·      หลีกเลี่ยงกลุ่มสายการบิน (THAI AAV NOK) และกลุ่มท่องเที่ยว (AOT ERW MINT)

หุ้นรายงานพิเศษ

CPN Analyst Meeting Bloomberg Consensus 78.14 บาท

เป้า CAGR 5 ปีข้างหน้า +12%

แผนระยะยาว 5 ปีตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ย (CAGR) +12% จากทุกธุรกิจได้แก่ ศูนย์การค้า อาคารสำนักงานให้เช่า อสังหาฯเพื่อขาย และโรงแรม

ปี 62 เป้ารายได้เติบโต 8-9% คาดอัตรากำไรขั้นต้นและ EBITDA margin ดีขึ้น 2% และต้นทุนการเงินลดลง บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการอสังหาฯ 4-5 โครงการ มูลค่ารวมราว 4 พันลบ. งบลงทุน 22,300 ลบ.ใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดในการดำเนินงาน การขายสินทรัพย์เข้า REIT คาดจะมีเงินสดสุทธิราว 4-5 พันลบ.

แผนเปิดสาขาใหม่ที่อยุธยาและศรีราชา (ปี 64) จันทบุรี (ปี 65) ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค (ปี 66-67) และเปิดสาขาในต่างประเทศอีก 2 แห่งที่มาเลเซียและเวียดนามภายในปี 67

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว โดยคาดจะเห็นการเติบโตสูงในปี 66 เป็นต้นไปหลังจากโครงการดุสิตธานี-เซ็นทรัล เริ่มเปิดให้บริการ

หุ้นมีข่าว   

(+) PTTEP (Bloomberg Consensus 144.26) รายงานกำไรปี 62 ที่ 4.88 หมื่นล้านบาทเติบโต 35% เป็นผลมาจากปริมาณการขายที่สูงขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการบงกช การเข้าซื้อกิจการในมาเลเซีย และ Partex ขณะที่ราคาขายเฉลี่ยปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ 47.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันเตา พร้อมประกาศจ่ายปันผล 3.75 บาทต่อหุ้นขึ้น XD วันที่ 13 ก.พ.

ความเห็น มีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 63 เนื่องจากจะรับรู้กำลังการผลิตจากมาเลเซีย และ Partex เต็มปีช่วยหนุนปริมาณการผลิตให้เพิ่มขึ้นสู่ 3.91 แสนบาร์เรลต่อวัน ด้านราคาขายก๊าซธรรมชาติจะอ่อนตัวลงตามราคาน้ำมัน ขณะที่คาดว่าต้นทุนการผลิตจะทรงตัวที่ 32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

(+) กลุ่มกิจการร่วมค้า BBS (BTS-BA-STEC) คว้างานโครงการพัฒนาอู่ตะเภา-เมืองการบินภาคตะวันออก คณะกรรมการคัดเลือกฯประกาศผลเป็นผู้ชนะการประมูล เหตุให้ผลตอบแทนแก่ภาครัฐดีสุด เตรียมเชิญเจรจาร่างสัญญาและงานเทคนิค คาดได้เซ็นสัญญา มี.ค.นี้

(+) CK บอร์ดอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 3 พันลบ. ระยะเวลา 2 มี.ค.-1 ก.ย.63  (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)

KBANK (Bloomberg Consensus 161.49 บาท)  บอร์ดสั่งทุ่มเงิน 4,600 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืน 23.93 ล้านหุ้น ช่วง 14-27 ก.พ.นี้  ลั่น! เงินกองทุนสุดแกร่ง สภาพคล่องเพียงพอรองรับทำธุรกิจระยะยาว พร้อมจัดให้อีกเด้ง จ่ายปันผลงวดปี 62 อีก 4.50 บาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SCN (Bloomberg Consensus 3.82 บาท) คาดกำไรปี 63 แจ่ม บุ๊กส่วนแบ่งกำไรโครงการโรงไฟฟ้ามินบูที่เมียนมา เฟสที่ 1 ขนาด 50 MW เต็มปี พร้อมเตรียมทุ่มงบลงทุน 1,200 ล้านบาท ขยายทุกธุรกิจ ล่าสุด สแกน แอดวานซ์ พาวเวอร์เซ็นสัญญาโซลาร์ รูฟท็อป เพิ่มอีก 6 MW (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EFORL (Bloomberg Consensus - บาท) บอร์ด EFORL อนุมัติซื้อที่ดินใน จ.เชียงราย มูลค่าไม่เกิน 305 ล้านบาท โดยจะจ่ายเป็นหุ้น WCIH 56% จ่อชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียว เม.ย. 63 พร้อมขยายเวลาซื้อหุ้น RO ในอัตรา 4:1 ที่ราคา 0.05 บาท/หุ้น ไปถึงวันที่ 24 ก.พ. 63 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) S (Bloomberg Consensus 3.71 บาท)  กางแผน 5 ปี ปั๊มรายได้รวมพุ่ง 30,000 ล้านบาท จากปีนี้ตั้งเป้าไว้ 20,000 ล้านบาท เล็งทุ่มงบก้อนใหญ่ 68,000 ล้านบาท ลุยขยายลงทุน 3 ธุรกิจหลัก กางแผน 5 ปีเตรียมเปิด 30 โครงการใหม่ มูลค่าโครงการรวม 37,500 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) M (Bloomberg Consensus 79.06 บาท) หวังผลงานเติบโต ลุ้น SSSG เป็นบวกจากปี 2562 ที่ 0.2% ทยอยเปิดสาขาร้าน MK อีก 20 สาขา พร้อมร้านแหลมเจริญ ซีฟู๊ด เร่งอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอด หลังนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวลง(ที่มา ทันหุ้น)

(+) VCOM (Bloomberg Consensus - บาท)  กางแผนธุรกิจปี 63 เล็งเจาะไฟเบอร์ซีเคียวริตี้ เตรียมเปิดตัว 20 ก.พ.นี้ ชูจุดแข็ง Solution ติด Top10 ด้านแม่ทัพหญิง "ทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต" ตั้งเป้ารายได้แตะ 2.1 พันล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน แย้มมีแบ็กล็อกจ่อส่งมอบโค้งแรก 250 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

 (+) SSP (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) ประกาศพร้อมเดินหน้าศึกษาโปรเจ็กต์วินด์ฟาร์มเวียดนามตามแผน หวังผลักดันผลงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง บิ๊กบอส "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" มั่นใจรายได้ปี 2563 โตเกิน 20% วางเป้า 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตโรงไฟฟ้าทั้งใน-ต่างประเทศพุ่งแตะ 400 เมกะวัตต์ ตามแผน (ที่มา ทันหุ้น)