สมาคมรับสร้างบ้านฯ ยกระดับ มาตรฐานรับเหมาดันรายได้

สมาคมรับสร้างบ้านฯ ยกระดับ มาตรฐานรับเหมาดันรายได้

นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคนใหม่ รุกสร้างมาตรฐานธุรกิจ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 25 % เป็น 30 % ในปีนี้ จากมูลค่าตลาดรวมรับเหมาก่อสร้างบ้าน ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลกว่า 5 หมื่นล้านบาท

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยภายหลังจากได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมฯ เป็นวาระ 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2563 -2565 ว่า ต้องการเปลี่ยนแปลงธุรกิจรับสร้างบ้านให้ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคและภาครัฐ จึงต้องยกระดับสร้างความแข็งแกร่ง สื่อสารเชิงรุก โดยต้องการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ในธุรกิจรับสร้างบ้านจาก 25% เพิ่มเป็น 30% ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่มีมูลค่าตลาดรวม 50,000 ล้านบาท ในปี 2563

“ต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาตลาดรับเหมาที่ไม่ได้คุณภาพ ส่วนหนึ่งเกิดจากผู้รับเหมาไม่ได้เป็นสมาชิกสมาคมฯ ไม่มีการกำกับดูแล จึงมีปัญหาหนีงาน และการก่อสร้างไม่ได้รับมาตรฐาน ดังนั้นจึงต้องทำให้คนรู้จักสมาคมฯมากขึ้น ตั้งแต่การพัฒนาสมาชิก พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ และพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ ที่จะช่วยให้สมาชิกได้เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด” นายวรวุฒิ กล่าว และว่า

สำหรับนโยบาย 3 ด้านที่จะดำเนินงานให้สำเร็จภายใน 3 ปี ประกอบด้วย ปีที่ 1.สร้างการรับรู้ให้กับสังคม ภาครัฐ หน่วยงานต่างๆ และผู้บริโภค ผ่านกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี ปีที่ 2.มุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานการรับสร้างบ้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำคู่มือมาตรฐานรับสร้างบ้าน และการพัฒนาคน หรือการพัฒนาบุคลากรของสมาชิก และ ปีที่ 3.เป็นปีที่จะก้าวสู่ความยั่งยืน โดยการวิเคราะห์ผลงานด้านการรับรู้ของผู้บริโภค การพัฒนาสมาชิก ทั้งจำนวนและคุณภาพ รวมไปถึงวิเคราะห์แนวทางแก้ไขปัญหาและมอบผลให้กับคณะผู้บริหารรุ่นต่อไป อีกทั้งจะมีการพัฒนาความรู้ และนวัตกรรมให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ เช่น การมุ่งเน้นให้สมมาชิกคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และให้ความรู้การออกแบบบ้านมาตรฐานที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ

 “ต้องสร้างความเชื่อมั่นด้วยการประชาสัมพันธ์เชิงรุก พัฒนาสมาชิกให้มีความแข็งแกร่งด้วยการอบรมการยกระดับการใช้ระบบสร้างบ้านที่ใช้เทคโนโลยี เช่น นำระบบ BIM (Building Information Modeling) เทคโนโลยีก่อสร้างที่ออกแบบจากฐานข้อมูล ตั้งแต่การออกแบบอาคารไปจนถึงการก่อสร้าง ผลทำให้เกิดการเพิ่มฐานสมาชิก รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือกับเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนร่วมมือกับภาครัฐในการทำโครงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในการก่อสร้าง" นายวรวุฒิ กล่าว