ปรับลดลง ราคานํ้ามันปรับฐานอีก + จำนวนผู้ติดไวรัสฯ ยังเพิ่มขึ้น

KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับลดลง... น่าจะรับจิตวิทยาเชิงลบจากรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสที่ยังคงเพิ่มขึ้น ขณะที่การรีบาวด์ของ SET Index เมื่อวานนี้ (ตามคาด) ไม่น่าจะต่อเนื่องมากนัก หลังจากนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหุ้นไทยค่อนข้างหนักมืออยู่... ทั้งนี้ ณ เวลา 8.00 น. จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ขยับขึ้นมาที่ 7,812 คน และจำนวนผู้เสียชีวิตขึ้นมาอยู่ที่ 170 คน และฝ่ายวิจัยฯ มองว่าแนวโน้มของตัวเลขยังคงสูงขึ้น อยู่ในระยะสั้น น่าจะส่งผลให้มีความกังวลต่อการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งรายได้จากการท่องเที่ยวซึ่งมีผลโดยตรงต่อดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย (เป็นลบต่อค่าเงินบาท ซึ่งเช้าวันนี้ อ่อนค่าทะลุระดับ 31.0 บาท) ด้านปัจจัยภายในประเทศ เมื่อวานนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของ ส.ส. วิปรัฐบาลไว้พิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของ พ.ร.บ.งบประมาณ 2563 ขณะที่นักลงทุนบางส่วนยังติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ธ.ค. 2562 ที่จะรายงาน
โดย ธปท. ในช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ โดยภาพรวมนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI ประเมินเบื้องต้นจีดีพีไตรมาส 4/2562 ประมาณ 2.5% YoY ซึ่งในกรณีดังกล่าวจะส่งผลให้จีดีพีไทยทั้งปี 2562 เติบโต 2.5% เช่นกัน

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร TFG, JMART, KSL

- TFG (เป้าพื้นฐาน 5.1 บาท) 1) ประเมินพักฐานที่แนวรับ 4.3 - 4.2 บาท / แนวต้าน 4.50 - 4.76 บาท (Stop loss 4.16 บาท) 2) รับอานิสงส์ค่าเงินบาทอ่อน เป็นบวกต่อการส่งออก ขณะที่ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มยังทรงตัวสูง 75.5 บาท/กก (เท่ากับระดับสูงสุดในปี 2562), ราคาเนื้อไก่อ่อนตัวลงเล็กน้อย แต่จากราคาลูกไก่เนื้อที่ยังอยู่ในระดับสูงเช่นเดิม + ค่าเงินบาทอ่อนกระตุ้นการส่งออกเนื้อไก่คาดราคาเนื้อไก่จะอ่อนตัวระยะสั้น 3) ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ ทั้ง ข้าวโพดและกากถั่วเหลืองในประเทศยังทำจุดตํ่าใหม่ต่อเนื่อง เป็นบวกต่อต้นทุนการผลิต

- JMART (เป้า Consensus 12.3 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.6 บาท / แนวต้านแรก 9.0 - 9.4 บาท (Stop loss 8.55 บาท) 2) ประเมิน Valuation laggard โดย PE ปีนี้ต่ำเพียง ±13 เท่า ขณะที่คาดกำไรยังโต +10% YoY (ข้อมูล Bloomberg consensus) 3) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q62 ยังเติบโต จาก i) ยอดขายสมาร์ทโฟนโต QoQ ในช่วง High season และ ii) คาดกำไรของ บ.ลูก JMTโตเด่น YoY และ SINGER ไม่เป็นตัวถ่วง

- KSL (เป้า Consensus 2.43 บาท, สูงสุด 2.87 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.34 บาท / แนวต้าน 2.48 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 2.7 บาท (Stop loss 2.3 บาท) 2) ประเมินระยะสั้น มีโอกาสที่นักลงทุนจะ Switching จากหุ้นกลุ่มไบโอดีเซล อาทิ GGC* ที่ได้ประโยชน์
จากมาตรการภาครัฐฯ (ไบโอดีเซลบี10) ไปแล้ว มายังหุ้นกลุ่มเอทานอล ที่มีโอกาสได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มถัดไป หลังกระทรวงพลังงานเตรียมปรับแก๊สโซฮอล์อี 20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานใน 3Q63 3) ราคาน้ำตาลในตลาดโลกปรับขึ้นแล้ว +7% YTD คาดเป็นบวกกับผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงงานน้ำ ตาลฤดูกาลถัดไป

หุ้นมีข่าว

(-) อนุญาโตฯชี้ขาด ADVANC* ชดเชยให้ทีโอที 3 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น) อนุญาโตฯ ชี้ขาด สั่ง ADVANC* จ่าย TOT กว่า 31,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน กรณีข้อพิพาทแก้ไขสัญญาการลดส่วนแบ่งรายได้พรีเพดและหักค่าใช้จ่ายโรมมิ่ง ฟาก ADVANC* ยันข้อพิพาทยังไม่สิ้นสุด ไม่
กระทบฐานะการเงิน-สภาพคล่อง-ความสามารถชำระหนี้ จ่อยื่นคำร้องขอเพิกถอนต่อศาลปกครองกลางภายใน 90 วัน ... อ่านรายละเอียดเพิ่มในบทวิเคราะห์ Alert วันนี้

(+) WHA* ส่งซิก ปีนี้กำไรนิวไฮ ทุ่ม 5.2 หมื่นล.ลงทุน 5 ปี (ข่าวหุ้น) บิ๊กบอส WHA* ประกาศแผนปี 63 ปั๊มกำไรสุทธินิวไฮจากปี 62 ลั่นเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรโต 15% จากปี 62 เล็งขายที่ดิน 1,400 ไร่ ลุยสร้างพื้นที่คลังสินค้าให้เช่ากว่า 250,000 ตารางเมตร พร้อมกางแผนปี 63-67 ทุ่มงบลงทุนกว่า 5.2 หมื่นล้านบาท

0) BEM* ลุ้นเร็วๆ นี้ ครม.อนุมัติต่อสัญญาทางด่วน (ข่าวหุ้น) “กทพ.” ส่งร่างสัญญาขยายสัมปทาน BEM* ถึงกระทรวงคมนาคมแล้ว จ่อชงเข้าครม.เร็วๆ นี้  “สุรงค์” ย้ำหากเซ็นสัญญาไม่ทัน 29 ก.พ. 63 ก่อนด่วนขั้นที่ 2 หมดอายุ มีแผนสำรองจ้าง BEM* บริหารชั่วคราว ขณะที่ล่าสุดวานนี้ลงนามสร้างด่วน
พระราม 3 สัญญา 2 วงเงิน 6.4 พันล้านบาทกับกลุ่มผู้รับเหมาจีนมี “ไชน่าฮาร์เบอร์” เป็นแกนนำ

(+ GGC*) 'ประวิตร' ยืนราคาปาล์ม 5-7 บาท พลังงานเร่งสกัดลักลอบนำเข้า (กรุงเทพธุรกิจ) "ประวิตร" ยันดูแลราคาปาล์ม ปีนี้ 5-7 บาทต่อก.ก.สร้างรายได้ชาวสวน 5-6 พัน ล้านบาทต่อเดือน "สนธิรัตน์" ขอเกษตรกร-โรงสกัด ร่วมป้องกันลักลอบนำเข้า "ซีพีโอ" เล็งพัฒนาคุณภาพ บี100 หวังส่งออกจีน